เอเอฟพี - กลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชนชื่อดัง ระบุวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า ผู้พิพากษาสืบสวนในคดีความอดีตแกนนำเขมรแดง 2 คดี ของศาลพิเศษอาชญากรรมสงครามที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนในกัมพูชา ล้มเหลวในหน้าที่และควรลาออก
“ประชาชนชาวกัมพูชาไม่มีหวังที่จะได้เห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นจากคดีสังหารหมู่ตราบเท่าที่ผู้พิพากษาเหล่านี้ยังมีส่วนร่วมอยู่” นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการองค์กรฮิวแมนไรท์วอชท์ (HRW) ภาคพื้นเอเชีย กล่าว และยังได้กล่าวโทษการแทรกแซงทางการเมืองทำให้การสืบสวนไม่มีประสิทธิภาพพอ
HRW ระบุว่า ผู้พิพากษา 2 คน คือ นายยู บุนเล็ง ชาวกัมพูชา และ นายซิกฟรีดส์ บลังค์ ชาวเยอรมัน ล้มเหลวที่จะดำเนินการสืบสวนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นกลาง ในคดีอาชญากรรมที่อดีตแกนนำเขมรแดง 5 คน ถูกกล่าวหา
“มีแนวโน้มว่า ทั้งสองคดีจะถูกลดความสำคัญลงโดยไม่มีการสืบสวนอย่างจริงจัง” ฮิวแมนไรท์ ระบุ
ทางด้าน นายลาร์ส โอลเซน โฆษกศาลพิเศษของสหประชาชาติปฏิเสธข้อกล่าวหาของ HRW และว่า ผู้พิพากษาทั้งคู่จะยังคงทำหน้าที่อย่างอิสระต่อไป
ในการพิจารณาคดีเขมรแดงครั้งแรกเมื่อปี 2553 ศาลพิเศษได้ตัดสินจำคุก นายกาง กึ๊ก เอียว หรือที่รู้จักในชื่อ สหายดุช อดีตผู้บัญชาการเรือนจำตูลสเลง นาน 30 ปี ฐานเป็นผู้ควบคุมดูแลการตายของประชาชนกว่า 15,000 คน และในการพิจารณาคดีครั้งที่ 2 กับอดีตแกนนำเขมรแดงอีก 4 คน กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน ที่คาดว่า จะเริ่มต้นสอบพยานได้ก่อนสิ้นปีนี้
ผู้พิพากษาทั้งสองคนเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากผู้สังเกตการณ์ตั้งแต่พวกเขากล่าวในเดือน เม.ย.ว่า พวกเขาได้สรุปการสืบสวนในคดีที่ 3 โดยปราศจากการซักถามผู้ต้องหาสองคน ที่เป็นผู้บัญชาการเขมรแดงระดับกลาง และในเดือน ส.ค.พวกเขากล่าวว่า มีข้อสงสัยอย่างมากว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ในคดีที่ 4 มีความเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสังหารหมู่และบังคับใช้แรงงาน
นายยู บุนเล็ง ทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาสืบสวนของกัมพูชาในทั้ง 4 คดี ขณะที่ นายบลังค์ รับผิดชอบในคดีที่ 3 และ 4 หลังจาก นายมาร์เซลล์ เลอมงด์ ชาวฝรั่งเศสลาออกจากหน้าที่เพื่อดูแลในโครงการอื่น ส่วนผู้พิพากษาคนอื่นๆ ต่างดูแลรับผิดชอบในการพิจารณคดีในศาล
