ASTVผู้จัดการออนไลน์-- เรื่องราวระหว่างนายตำรวจสายสืบนอกเครื่องแบบยศนายร้อยโท กับจ่าสิบเอกจราจรที่ห้ำหั่นกันข้างถนนในวิดีโอคลิปที่เผยแพร่สู่สายตาสาธารณชนสัปดาห์ที่แล้ว กำลังดำเนินไปแบบพลิกผัน พลิกความคาดหมายของผู้ชม เมื่อมีพยานเห็นเหตุการณ์เข้าให้การต่อคณะกรรมการสอบสวนว่า แท้จริงแล้วจ่าจราจรวันแทงลวน (Van Thanh Luan) เป็นผู้ก่อเรื่อง
คณะกรรมการฯ ได้ข้อสรุปในวันศุกร์และเสนอให้ทางการนครโฮจิมินห์ลงโทษจ่าจราจร ฐานใช้ไม้กระบองฟาดนายตำรวจสายสืบก่อน ทำให้นำไปสู่การพันตูกันริมถนน ท่ามกลางสายของผู้ใช้ยวดยานนับร้อยที่ผ่านไปพบ และ มีผู้ถ่ายคลิปเอาไว้
ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เปิดชื่อและตัวตนบอกกับคณะกรรมการสอบสวนว่า ตนเห็นตอนที่จ่าสิบในเครื่องแบบใช้กระบองฟาดลงบนไหล่ของชายสวมกางเกงขาสั้นในคลิป ซึ่งทราบเวลาต่อมาว่าเป็น ร.ท.เจิ่นไดฟุก (Tran Dai Phuc) นายตำรวจสายสืบนอกเครื่องแบบแห่ง สถานีตำรวจนครบาลถูดึ๊ก (Thu Duc) ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน
เรื่องมีอยู่ว่าจ่าจราจรได้โบกให้รถจักรยานยนต์คันหนึ่งจอดข้างถนน เพราะเห็นว่าไม่สวมหมวกกันกระแทก และ ขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าต่อว่า เมื่อชักช้าจ่าจราจรได้ใช้กระบองฟาดลงบนไหล่ของชายที่กระทำผิดกฎจราจร ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นนายตำรวจ และ ตามด้วยศอกเข้าที่บริเวณศีรษะอีก 1 ที
การกระทำดังกล่าวทำให้ ร.ท.ฟุก ลงจากรถและตบเข้าที่ใบหน้าของจ่าจราจรในเครื่องแบบ 1 ครั้ง ก่อนจะคว้าได้แท่นเหล็กแป๊บเข้าห้ำหั่น ดังที่ปรากฏในช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์ในคลิปที่มีผู้นำขึ้นเผยแพร่ในยูทิวบ์ และทำให้ผู้ชมเข้าใจในทันทีว่า นายตำรวจสายสืบหรือชายสวมกางเกงขาสั้นเป็นผู้ก่อเหตุใช้ความรุนแรง
ขณะนี้ ร.ท.ฟุก ยังถูกคุมขังในเรือนจำแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์เพื่อรอการดำเนินคดี เขาถูกปลดออกจากการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และ ถูกไล่ออกจากราชการ ขณะที่ยังไม่ทราบว่าเรื่องราวจะพลิกผันอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม นางเหวียนถิเตวี๊ยต (Nguyen Thi Tuyet) มารดาของจ่าสิบเอกลวนกล่าวกับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ ปฏิเสธว่าบุตรชายไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้น
นางเตวี๊ยตได้อ้างคำบอกเล่าของบุตรชายว่า เมื่อเห็นจักรยานยนต์แล่นมาและผู้ขับขี่ไม่สวมหมวกกันกระแทกจึงยกกระบองขึ้นเป็นสัญญาณให้หยุดและขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมให้ตรวจ และกระบองได้หล่นลงโดยบังเอิญโดนที่บริเวณไหล่กับมือของผู้กระทำผิดกฎจราจร และทำให้บุตรชายถูกทำร้าย
ตามรายงานของเตื่อยแจ๋ นายพันเอกฟานห่มแข็ง (Phan Hong Khanh) สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลเติ่นบี่ง (Tan Binh) ซึ่งเป็น สน.สังกัดของจ่าจราจร เป็นผู้เปิดเผยเรื่องราวที่กำลังพลิกผันนี้ ทำให้คณะกรรมการสอบสวนนำเสนอให้ทางการนครโฮจิมินห์ลงโทษจ่าจราจรขุนค้อน
ยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับนายร้อยโทสายสืบที่นอนในคุกมา 1 สัปดาห์.
สถานการณ์เริ่มพลิก
