ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ถึงแม้จะยังมีข่าวการลักลอบขายบริการทางเพศเล็ดลอดออกมาเป็นระยะๆ อยู่ก็ตาม แต่ 6 เดือนแรกของปีนี้ ทางการนครและจังหวัดต่างๆ ทั่วเวียดนาม ได้ปิดโรงอาบอบนวด ร้านคาเฟ่ กับร้านคาราโอเกะ และสถานบริการบันเทิงต่างๆ ที่มีการค้าเนื้อสดแอบแฝงไปแล้วกว่า 9,800 แห่ง
นั่นคือ สถานบริการในจำนวนทั้งหมด 28,000 แห่ง ซึ่งเจ้าหน้าเข้าตรวจเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายต่อต้านการค้าประเวณี หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ รายงานโดยอ้างตัวเลขกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ในช่วงเดือน ม.ค-มิ.ย.นี้ มีการจับกุมผู้กระทำผิด 380 กรณี ผู้เกี่ยวข้องรวม 1,500 ราย ทั้งหมดเป็นหญิงโสเภณี นายหน้าจัดให้มีการค้าประเวณี รวมทั้งผู้ซื้อบริการ ทั้งหมดนี้ถูกจับได้ “แบบคาหนังคาเขา” ในจำนวนนี้ 474 คน ถูกดำเนินคดี สื่อของทางการที่ออกในนครโฮจิมินห์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่น่าสลดหดหู่ใจ ก็คือ ทางการได้พบว่าอัตราอายุเฉลี่ยของหญิงสาวที่กระทำความผิดต่อกฎหมายการค้าประเวณีได้ลดลง 8 ปี เหลือเฉลี่ย 18 ปี เตื่อยแจ๋ กล่าว
รัฐบาลเวียดนามประกาศเมื่อต้นปีนี้ให้นครและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ต้องกำจัดการค้าประเวณีให้หมดไปจากสังคมภายใน 10 ปี และได้ตั้งงบประมาณราว 30 ล้านดอลลาร์ เพื่อการนี้ในปีแรก
ตามรายงานของสื่อทางการการตรวจค้นและจับกุมในหลายกรณีตั้งแต่ต้นปีนี้ได้พบหญิงขายบริการทางเพศที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ หลายกรณีเป็นเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี
.
.
นอกจากการค้าประเวณีจะขัดต่อขนบประเพณีและศีลธรรมอันดีของชาวเวียดนามแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม กับปัญหาทางอาชญากรรมติดตามมาอีกมากมาย พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้จัดการค้าประเวณีเป็น 1 ใน 3 “ความชั่วร้ายทางสังคม” คู่กับการฉ้อราษฎร์บังหลวงกับปัญหายาเสพติด ซึ่งจะต้องกำจัดให้หมด
สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้ ว่า หลายกรณีมีเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับท้องถิ่นรู้เห็นเป็นใจ และการค้าประเวณีได้กลายเป็นแหล่งรายได้ของเจ้าหน้าที่ทุจริต แม้ว่าจะมีการกำหนดโทษรุนแรงถึงขั้นไล่ออก และมีการตั้งกองบังคับการตำรวจปราบปรามความชั่วร้ายทางสังคมขึ้นมาดำเนินการเรื่องนี้เอง
เมื่อปีที่แล้วมีภาพนิ่งและวิดีโอคลิปที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตชิ้นหนึ่ง ซึ่งได้สร้างความสลดหดหู่ใจ และความโกรธแค้นให้กับผู้คนในสังคม และองค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนต่างๆ
คลิปดังกล่าวได้เปิดเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนครโฮจิมินห์ บุกเข้าจับกุมหญิงขายบริการคนหนึ่ง กับแขกของเธอถึงห้องพักในโรงแรมหลังหนึ่ง และทำการสอบปากคำในห้องนั้น โดยบังคับให้หญิงสาวอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า.