ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ชาวเวียดนามไม่หวั่นทางการสลายการชุมนุม ยังคงตบเท้าประท้วงจีนเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันในวันอาทิตย์ 24 ก.ค.ศกนี้ แม้ว่าจะถูกตำรวจขับไล่ให้ต้องสลายตัวในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม
เป็นสัปดาห์ที่ 8 แห่งการประท้วง นับตั้งแต่ทางการเวียดนาม กล่าวหาว่า เรือจีนได้ข่มขู่เรือสำรวจทรัพยากรเวียดนามถึง 2 ลำ ขณะสำรวจน้ำมันในน่าน้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลในช่วงปลายเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน มิ.ย.มานี้ แม้ว่ารัฐบาลสิองฝ่ายจะได้พยายามปรับความสัมพันธ์ต่อกันอีกครั้งหนึ่งในช่วงหลังๆ
ทางการกรุงฮานอยได้ยินยอมผู้ประท้วงจัดชุมนุมและเดินขบวนที่บริเวณใกล้กับสถานทูตจีนในกรุงฮานอยได้ใน 5 สัปดาห์แรก แต่ 2 ครั้งหลังสุดตำรวจได้นำกำลังเข้าขับไล่ และ มีการควบคุมตัวผู้ประทวงจำนวนหนึ่งไว้ชั่วขณะก่อนปล่อยตัวไป การ “สลายม็อบ” มีขึ้นหลังจากมีการเจรจาของรัฐบาลทั้งสองฝ่ายในเดือน มิ.ย.ในกรุงปักกิ่ง
การประท้วงครั้งล่าสุดในวันอาทิตย์นี้จัดขึ้นในหลายจุด รอบๆ บึงฮว่านเกี๊ยม ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองและเป็นปลายทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
“ผมอยากจะสื่อถึงจีนให้หยุดทำความชั่วร้ายกับประเทศของเรา” เหวียนกวางแถ็ก (Nguyen Quang Thach) วัย 26 ปี ที่เข้าร่วมการประท้วงกล่าวกับเอเอฟพี
การประท้วงทางการเมืองอย่างเปิดเผยนั้นเป็นเหตุการณ์ที่หาดูได้ยากในเวียดนาม นอกเหนือจากการประท้วงเกี่ยวกับสิทธิ์ในที่ดิน หรือการนัดหยุดงานตามโรงงานต่างๆ เท่านั้น
ผู้ประท้วงหลายคนสวมเสื้อยืดที่มีรูปแผนที่และข้อความต่อต้านการกล่าวอ้างเป็นเจ้าของน่านน้ำทะเลจีนใต้ของรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน น่านน้ำที่เวียดนามเรียกว่า “ทะเลตะวันออก”
ผู้ประท้วงพากันตะโกนว่า เกาะพาราเซล หรือ “หว่างซา” และ หมู่เกาะพาราเซล (เจื่องซา) เป็นของเวียดนาม และถือแผ่นโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีการจารึกชื่อทหารเวียดนามที่เสียชีวิตจากการปะทะกับจีนในบริเวณรอบๆ เกาะสแปร็ตลีย์ เมื่อปี 2531 อีกด้วย
นอกจากจีนกับเวียดนามแล้ว ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และไต้หวัน ต่างก็กล่าวอ้างเป็นเจ้าของหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ทั้งหมดหรือเป็นบางส่วนเช่นกัน เชื่อกันว่าที่นั่นรุ่มรวยด้วยน้ำมันดิบและก๊าซ
หมูไม่กลัวน้ำร้อน โดย AFP, Reuters
2
3
4
5
6
7
8
9