ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- พายุผ่านไปนานเกือบเดือนแล้ว แต่ลาวยังคงเยียวยาความเสียไม่หมด พายุไห่หม่าแรงอย่างน่าอัศจรรย์ จากมหาสมุทรแปซิฟิก เดินทางหลายพันกิโลเมตร พัดทำลาย 4 แขวงในภาคกลางกับภาคเหนือของลาวแบบยับเยิน ราษฎรหลายหมื่นคน กับนับร้อยหมู่บ้านได้รับผลกระทบ และล่าสุด สำรวจพบราษฎรเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คนในแขวงบอลิคำไซทางตะวันออกติดกับเมืองหลวง ทำให้เหยื่อพายุลูกนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 17 ศพ สื่อของทางการรายงาน
พายุพัดเข้าทำลายไร่นาของราษฎร 60 หมู่บ้านใน 5 เมือง (อำเภอ) ของแขวง (จังหวัด) ภาคกลางแห่งนี้ ประชาชนกว่า 22,000 คน ได้รับความเดือดร้อน เมืองบอลิคัน หนักหน่วงที่สุด รวมทั้งเมืองเวียงทอง ที่มีสองแม่ลูกเสียชีวิต หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ-สังคม รายงานอ้างข้อมูลของเจ้าหน้าที่กู้ภัย
นายสิงคำ สุวันคำ หัวหน้าห้องว่าการปกครองแขวง (ปลัดจังหวัด) บอลิคำไซ หัวหน้าคณะกรรมการป้องกันภัยพิบัติของแขวงดังกล่าว ระบุว่า พายุไห่หม่าสร้างความเสียหายด้านต่างๆ คิดเป็นมูลค่ากว่า 34,000 ล้านกีบ หรือกว่า 10 ล้านดอลลาร์ และ ทางการกำลังเร่งเยียวยาให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน
ขณะเดียวกัน ในแขวงเชียงขวางที่อยู่เหนือขึ้นไป ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 8 คน และได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากพายุลูกนี้ ก็กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ทั้งด้านอาหาร สิ่งอุปโภคบริโภค
ทางการกำลังจัดแผนจ่ายชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ พื้นที่ผลิตกสิกรรม เรือกไร่นาสวนในแขวงเชียงขวางถูกทำลายเสียหายไปกว่า 3,000 เฮกตาร์ (กว่า 18,000 ไร่) ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน กล่าว
พายุไห่หม่าที่มีต้นกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกหมู่เกาะฟิลิปปินส์ได้เคลื่อนตัวเข้าทะเลจีนใต้ พัดเข้าสู่บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวตังเกี๋ย สร้างความเสียหายให้แก่หลายจังหวัดในภาคเหนือเวียดนาม และมีผู้เสียชีวิตกว่า 10 ราย
เมื่อเคลื่อนเข้าถึงดินแดนลาวในสัปดาห์ปลายเดือน มิ.ย.ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ทางหลวงและถนนเชื่อมระหว่างเมืองนับสิบสายถูกตัดขาด สะพานคอนกรีตข้ามลำน้ำต่างๆ ถูกกระแสน้ำพัดหายหักพังไปนับสิบแห่ง ชุมชนต่างๆ สองฝั่งลำน้ำต่างๆ ล้วนได้รับผลกระทบ
ในแขวงเวียงจันทน์ทางหลวงเลข 13 ช่วงจากนครเวียงจันทน์ไปยังเมืองวังเวียง และจากเมืองวังเวียงไปยังเมืองกาสี ซึ่งเป็นทางหลวงเพียงสายเดียวที่พุ่งตรงไปยังตอนเหนือของประเทศ ถูกน้ำท่วมใช้การไม่ได้เป็นเวลาหลายวัน
กว่า 3 สัปดาห์มานี้ทางการแขวงต่างๆ ได้เร่งซ่อมแซมถนน และสะพานให้กลับมาใช้การได้เป็นปรกติเกือบ 100% แล้ว รวมทั้งเมืองไซสมบูนที่ห่างไกลในแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งทั้งถนนและสะพานเสียหายหนัก สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้แล้ว.