ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ศาลกรุงฮานอยได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุกอีก 7 ปี ในคดีที่ 3 กรณีอื้อฉาวระดับโลก โดยเจ้าหน้าที่รัฐ รวมหัวกันยักยอกเงินจากโครงการก่อสร้างถนนและสะพานขนาดใหญ่ ที่เงินทุนส่วนใหญ่เป็นเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการจากต่างประเทศ และ เป็นคดีที่ 3 สำหรับบรรดาผู้เกี่ยวข้อง
หลังจากเริ่มไต่สวนมาตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2554 ศาลกรุงฮานอยได้พิพากษาในวันพุธ 6 ก.ค. นี้ ให้จำคุกนายบุ่ยเตี๋ยนยวุ๋ง (Bùi Tiến Dũng) อดีตผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการที่ 18 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อ PMU18 (Project Management Unit 18) ฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ สร้างความเสียหายให้แก่รัฐและสังคม ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา
เมื่อรวมกับโทษจำคุกจาก 2 คดีแรกรวมเวลา 16 ปี ทำให้นายยวุ๋งต้องโทษจำคุกรวมกันทั้งหมด 23 ปี
ก่อนหน้านี้ ผอ.สำนักงานแห่งนี้ ต้องคดีเล่นการพนันและติดสินบน และคดียักยอกเงิน ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่และงบประมาณของรัฐ กับเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ หรือ ODA (Official Development Assistance) จากต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ
คดีล่าสุดเป็นการทุจริตเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างถนนและสะพายบ๋ายเจ๊ย (Bãi Cháy) บนทางหลวงเลข 18 ข้ามอ่าวใน จ.กว๋างนีง (Quảng Ninh) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ และสำนักงาน PMU18 ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนผู้รับเหมาก่อสร้าง บริหารโครงการและเงินทุน
แต่นายยวุ๋งได้ร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาได้สร้างบัญชีรายชื่อพนักงานอันเป็นเท็จขึ้นเพื่อเบิกจ่ายเงินเดือนที่เป็นส่วนเกินไปใช้ประโยชน์ส่วนตน เหตุเกิดระหว่าง มี.ค.2546- ก.พ.2549 รวมเป็นเงินที่ถูกยักยอกไปทั้งหมดเกือบ 3.5 พันล้านด่ง (225,800 ดอลลาร์) ตามอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงปีนั้น
ยังมีผู้ใต้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องกับคดีล่าสุดนี้อีก 7 คน ทั้งหมดต้องโทษจำคุกคนละ 2-7 ปี ในนั้นมีเพียงคนเดียวที่ต้องโทษจำคุก 2 ปีแต่ให้รอลงอาญาตามมูลความผิด สำนักข่าว “เหงือยดัวติน” ข่าวสารกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมภาษาเวียดนามรายงาน
.
.
ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการ PMU18 เคยถูกศาลพิพากษาจำคุก 13 ปี กระทำความผิดฐานเล่นการพนัน โดยใช้เงินงบประมาณไปเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลกเสียหายไปกว่า 100,000 ดอลลาร์ และยังติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้พ้นความผิด
เขายังต้องโทษจำคุก 3 ปีในคดีที่ 2 ซึ่งเป็นการยักยอกทรัพย์ โดยนำรถของยนต์ของทางการไปให้บริษัทผู้รับเหมาเช่า และนำเงินที่เรียกเก็บเป็นค่าเช่าไปใช้ส่วนตัว
ตามรายงานของสื่อทางการ คณะอัยการในคดีนี้ยังคงสืบสวนการทุจริตที่เกี่ยวกับ PMU18 ต่อไป เพื่อหาการกระทำผิดในกรณีอื่นๆ
นายยวุ๋งกับผู้ใต้บังคับบัญชาถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี 2549 ในคดีอื้อฉาวซึ่งทำให้หลายประเทศงดให้การช่วยเหลือแก่เวียดนามไปชั่วขณะ และทำให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์หันมาปราบปรามการทุจริตโดยเจ้าหน้าที่ของพรรคและรัฐอย่างจริงจังยิ่งขึ้น
กรณีอื้อฉาวนี้ยังทำให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงขนส่งที่กำกับดูแลหน่วยงานนี้ถูกจับกุมอีก 1 คน และ ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงลาออก เนื่องจากไม่ได้ทำการสอบสวนสืบสวนการกระทำผิดของ PMU18 ในช่วงก่อนหน้านั้น แม้ว่าเหตุทุจริตจะเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ก็ตาม
สำหรับรัฐมนตรีช่วยว่าการ ที่ถูกจับกุมได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา หลังการสอบสวนโดยคณะกรรมการของรัฐบาลได้พบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการทุจริต แต่ไม่ได้กลับเข้ารับตำแหน่งอีก ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ไม่ได้กำกับดูแลหน่วยงานและ ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดการทุจริตขึ้น สื่อของทางการกล่าว.