"ไห่หม่า" ถึงเวียดนาม ตายแล้ว 6 ตังเกปินอยหาย 11

<bR><FONT color=#000033>ชาวมะนิลาขับรถลุยน้ำตั้งแต่เช้าตรู่ในวันศุกร์ 24 มิ.ย.นี้ หลังพายุลูกใหม่พัดเข้า ปีนี้ฟ้าฝนแรงฟิลิปปนส์รับติดๆ กัน 3 ลูกในสัปดาห์เดียว เวียดนามกำลังรับช่วงต่อ 1 ลูก พายุไห่หม่ายังไม่ถึงฝั่ง วันศุกร์นี้มีรายงานคนตายไปแล้ว 6 เรือหาปลากว่า 50,000 ลำยังอยู่ในทะเลจีนใต้ ตังเกปินอยหายต๋อมไป 11 คนตั้งแต่วันพุธ พายุไห่หม่าที่กำลังพัดเข้าเวียดนามทำให้นาข้าวในฟิลิปปินส์เสียหายสุดคณานับมาแล้ว. -- REUTERS/Cheryl Ravelo. </b>

รอยเตอร์ - สื่อของทางการเวียดนามรายงานวันนี้ (24 มิ.ย.) ระบุว่า อิทธิพลของพายุที่กำลังเคลื่อนเข้าใกล้ฝั่งจากอ่าวตังเกี๋ยทำให้ชายชาวเวียดนาม 4 คน เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันขณะหาปลา และ มีผู้เสียชีวิตอีก 2 คน ในภาคเหนือของประเทศ

พายุลูกเดียวกันนี้ทำให้ชาวประมงฟิลิปปินส์สูญหายไป 11 คน ตั้งแต่วันพุธ

หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์เดลี่รายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเวียดนามพบผู้เสียชีวิตหลังจากทั้ง 4 คน ถูกพัดหายไปตั้งแต่วันพฤหัสบดี เพราะพายุฝนที่ตกกระหน่ำอยู่นาน 2 วัน ใน จ.เอียนบ่าย (Yen Bai) ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของทางการรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตอีก 2 คน โดยรายหนึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 50 คน ลมกระโชกแรงทำลายบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากกว่า 850 หลัง ในเมืองท่าหายฝอง (ไฮฟอง) ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 100 กม.

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์เวียดนามกล่าวว่า อุบัติเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่พายุไห่หม่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยในคืนวันเดียวกัน โดยศูนย์กลางพายุอยู่ห่างจาก จ.กว๋างนีง ทางตะวันออก 140 กม. เมื่อเวลา 7.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในเช้าวันนี้ ทำให้ถนนหลายสายในกรุงฮานอยจมน้ำ การจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนเป็นไปอย่างยากลำบาก และคาดว่าฝนจะยังคงตกหนักต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์

<bR><FONT color=#000033>ฟ้าฝนแรง -- พายุเมียรี (Meari) ซึ่งเป็นลูกล่าสุดทำให้ฝนตกหนักและลมแรงพัดเอากิ่งไม้หักระเนระนาดในเขตเกซอนซิตี้ของกรุงมะนิลาในเช้าวันศุกร์ 24 มิ.ย.นี้ สายการบินต่างๆ ต้องยกเลิกเที่ยวบินในประเทศกว่า 50 เที่ยว สัปดาห์เดียวฟิลิปปินส์รับติดๆ กัน 3 ลูก อีก 1 ลูกกำลังเคลื่อนเข้าเวียดนาม ยังไม่ถึงฝั่งก็มีคนตายไปแล้ว 6 เรือประมงงอีก 5 หมื่นลำยังอยู่ในทะเลตั้งแต่วันพฤหัสบดี. --REUTERS/Cheryl Ravelo. </b>

<bR><FONT color=#000033>ชาวเมืองดัมปาลิต (Dampalit) จ.มาลาบอน (Malabon) ทางตอนเหนือกรุงมะนิลาได้ลุยน้ำก่อนใครๆ หลังจากไต้ฝุ่นซีปั๊ต (Sepat) ทำให้เกิดฝนตกหนักในเกาะลูซอนในวันอังคาร 21 มิ.ย. 2554 ไต้ฝุ่นลูกนี้อ่อนกำลังและไม่เคลื่อนเข้าทะเลจีนใต้ แต่วันศุกร์นี้เวียดนามกำลังเจอพายุโซนร้อนไห่หมา (Haima) ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ 2-3 วันก่อนหน้านี้ ยังไม่ถึงฝั่งก็มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 จากฝนตกและน้ำท่วม. -- REUTERS/Romeo Ranoco. </b>

3

ไห่หม่า (Haima) เป็นพายุลูกที่ 2 ที่พัดถล่มเวียดนามในปีนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของประเทศ แต่คาดว่าพายุจะอ่อนกำลังลงในช่วงเช้าวันเสาร์เมื่อเคลื่อนขึ้นฝั่ง

ฝนที่ตกหนักในภาคเหนือทำให้การทำเหมืองถ่านหินใน จ.กว๋างนีงต้องหยุดชะงัก แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรเช่น ข้าว ซึ่งปลูกมากในภาคใต้ ขณะที่กองกำลังชายฝั่งของเวียดนามระบุว่าได้แจ้งเตือนเรือประมงมากกว่า 50,000 ลำ ที่ลอยลำอยู่ในทะเลตะวันออกแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดี

หน่วยตรวจการณ์ชายฝั่งเวียดนามรายงานในวันพฤหัสบดีว่า วันเดียวกันมีเรือประมงขนาดต่างๆ กว่า 50,000 ลำ กำลังหาปลาอยู่ใน "ทะเลตะวันออก" หรือ ทะเลจีนใต้
ในฟิลิปปินส์สภาบริหารความและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติกับเรือของกองทัพเรือกำลังร่วมกันค้นหาชาวประมง 11 คน ที่ยังไม่กลับจากทะเลในเขตบิโคล (Bicol) ที่ยังไม่กลับเข้าฝั่งตั้งแต่วันพุธ

สายการบินฟิลิปปินส์ (Philippines Airlines) ซีบูแปซิฟิก (Cebu Pacific) แอร์ฟิลิปปินส์ (Air Philippines) และ เซสต์แอร์ (Zest Air) ได้ยกเลิกเที่ยวบินจากกรุงมะนิลารวม 35 เที่ยวในวันศุกร์นี้ หลังจากพายุโซนร้อนเมียรี (Meari) ทำให้ฝนตกหนัก ถนนหลายสายในเมืองหลวงน้ำท่วม โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน

พายุไห่หม่าที่เพิ่งจะผ่านไปทำให้นาข้าวได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 658 ล้านเปโซ หรือ 15 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งข้าวเปลือกกว่า 18,000 ตัน คิดเป็นราว 0.5% ของผลผลิตที่คาดหมายจากในฤดูเก็บเกี่ยวปัจจุบัน

มาตามนัดในฮานอย By Dan Tri

5

ฟิลิปปินส์เป็นประเทศนำเข้าข้าวและรายใหญ่ที่สุดของโลก และหลายปีมานี้ซื้อข้าวจากเวียดนามเกือบทั้งหมด

ตามรายงานล่าสุดโดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางกรุงฮานอย เวลา 4 น.วันศุกร์นี้พายุไห่หม่าได้อ่อนแรงลงเป็นระดับดีเปรสชั่นเมื่อเคลื่อนตัวเข้าถึงชายแดนจีนบริเวณ จ.กว๋างนีง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ตามที่พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า ด้วยความเร็ว 10 กม.ต่อ ชม. และความเร็วใกล้ศูนย์กลางระดับ 8 คือ 62-74 กม./ชม.

ชายฝั่งทะเลอ่าวตังเก๋ระหว่าง จ.กว๋างนีง กับ จ.นีงบิ่ง (Ninh Binh) ยังมีคลื่นลมแรง และ เป็นอันตรายสำหรับเรือประมง หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ รายงานในเว็บไซต์

พายุไห่หม่ากับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ตามฤดูกาล กำลังทำให้เกิดคลื่นลมแรงใน "ทะเลตะวันออก" และฝนตกหนักตามชายฝั่งตั้งแต่ภาพเหนือลงไปภาคกลาง รวมทั้งบริเวณเกาะเจื่องซา (Truong Sa) หรือ แสปร็ตลีย์ (Spratly) ที่เวียดนามอ้างเป็นเจ้าของอีกด้วย.