ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เจ้าแขวงแขวงเซียงขวาง ศ.ดร.สมกด มังหน่อเมก ได้ออกเรียกร้องในบ่ายวันจันทร์ 4 ก.ค.นี้ ขอความช่วยเหลือจากสังคมทั่วประเทศ รวมทั้งความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนนับหมื่นที่ได้รับผลกระทบจากถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่ อันเนื่องจากพายุไห่หม่า ที่พัดเข้าภาคเหนือ ของลาวสัปดาห์ที่แล้ว และ รายงานล่าสุดแขวงต่างๆ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 ราย
พายุทำให้เกิดฝนตกหนักระหว่างวันที่ 24-25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในดินแดนแห่งทุ่งไหหินจนถึงวันจันทร์นี้ส่วนใหญ่ของแขวงยังจมน้ำ เส้นทางคมนาคมสายหลักถูกตัดขาดทั้งหมด ทางการยังไม่สามารถเข้าถึงเขตอุทกภัยได้ในหลายท้องที่ ทุกพื้นที่นอกจากนี้ล้วนได้รับผลกระทบ หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่รายงาน
เจ้าแขวงเซียงขวาง กล่าวว่า ทั้งแขวงพบผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ประชาชนยังไร้ที่อยู่อาศัย ขาดอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และปัจจัยสำคัญทุกอย่างสำหรับการดำรงชีพ ภัยพิบัติครั้งนี้ได้ทำลายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงของราษฎรหมดสิ้น ความเสียหายร้ายแรงกว่าจะใช้เงินงบประมาณแก้ไขเยียวยาได้
“คณะพรรค-รัฐของแขวงได้ตกลงรณรงค์ขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อขอทั้งวัตถุปัจจัยช่วยเหลือบรรเทาทุกข์พ่อแม่พี่น้อง ประชาชนบรรดาเผ่าในแขวงเซียงขวาง และ ปรับปรุงพื้นฐานโครงร่างต่างๆ เช่น เส้นทางคมนาคม ไฟฟ้า น้ำประปาการสื่อสารและอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว”
“คณะพรรคและอำนาจการปกครองระดับแขวงขอแสดงความขอบอกขอบใจและรู้บุญคุณเป็นอย่างสูงต่อการประกอบส่วนของท่าน และอำนาจการปกครองแขวงจะนำเอาวัตถุปัจจัยของท่านลงส่งถึงมือประชาชนผู้ประสบเคราะห์ร้ายตามจุดประสงค์ของท่านทุกประการ..”
“.. และแขวงขอจารึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ของแขวงเชียงขวางตลอดไป” เจ้าแขวงและเลขาฯ พรรคแขวงกล่าวในคำแถลงที่ออกเมื่อเวลา 14.00 น.เศษวันนี้
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ “ประชาชน” ของศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ระหว่างวันที่ 1-2 ก.ค. พล.ท.ดวงใจ พิจิต รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้ไปเยี่ยมเยือนราษฎรในเซียงขวาง ช่วยเหลือราษฎรและได้รับฟังรายงาน
อุทกภัยครอบคลุมพื้นที่ 8 เมือง รวม 176 หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตามลำน้ำสายต่างๆ เสียหายหนักที่สุด ได้แก่เมืองคูน เมืองหมอก เมืองท่าโทม โดยเฉพาะเมืองหมอก จนถึงบ่ายวันที่ 2 ก.ค. เจ้าหน้าที่ทางการยังไม่สามารถเข้าถึงเขตอุทกภัยได้เพราะเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด สะพานข้ามลำน้ำจำนวน 8 แห่ง กับสะพานเล็กอีก 11 แห่งเสียหายใช้การไม่ได้
เซียงขวางยังมีบริเวณที่เรียกอย่างเป็นทางการ ว่า “เขตจุดสุม” คือ เขตที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อย และมีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น เป็นบริเวณที่ยังมีปัญหาทางสังคมและการเมือง สื่อของทางการกล่าวก่อนหน้านี้
.
.
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ-สังคม แขวงบอลิคำไซ ที่อยู่ใต้เซียงขวางลงไป และอยู่ทางตะวันออกของนครเวียงจันทน์ได้ออกเตือนให้ประชาชนระวังน้ำท่วมรอบใหม่ ขณะที่น้ำเริ่มไหลบ่าลงจากเซียงขวาง ซึ่งทำให้ระดับน้ำ ในลำน้ำลำธารสายต่างๆ เริ่มสูงขึ้นอีก
พายุไห่หม่าทำให้เกิดฝนตกหนักระหว่างวันที่ 23-27 มิ.ย.มี 47 หมู่บ้านถูกน้ำท่วม ประชาชนได้รับผลกระทบเกือบ 30,000 คน หนักที่สุดมี 15 หมู่บ้านในเขตเมืองบอลิคัน
ช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการแขวงเซียงขวางกับแขวงบอลิคะไซ ได้ออกช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์โดยแจกจ่ายอุปกรณ์ยังชีพ น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้าและอาหารแห้ง หนังสือพิมพ์ของทางการกล่าว
ไกลออกไปที่แขวงไซยะบูลีน้ำท่วมมีความรุนแรงไม่ต่างกัน วันที่ 1-2 ก.ค.นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีได้นำคณะไปเยี่ยมเยือนราษฎรผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต่างๆ ออกช่วยเหลือประชาชน นำสิ่งของ อาหารและปัจจัยที่จำเป็นต่างๆ แจกจ่ายบรรเทาทุกแก่ผู้ประสบเคราะห์ จนถึงวันจันทร์นี้ในทั่วแขวงพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
ส่วนแขวงเวียงจันทน์ที่อยู่ติดกันทางหลวงเลข 13 เหนือช่วงเมืองหินเหิบไปเมืองวังเวียง จนถึงวันที่ 1 ก.ค.ยังมีน้ำท่วมถึง 6 จุด บางช่วงท่วมสูงกว่า 1 เมตร ช่วงเมืองวังเวียง-เมืองกาสี ยังถูกตัดขาดและเป็นเขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีผู้เสียชีวิต 2 รายในเมืองนี้ อีก 1 รายเป็นเด็กเล็กถูกน้ำพัดพาไปในเขตเมืองห่ม ถนนระหว่างเมืองต่างๆ ยังถูกตัดขาด
ตามรายงานของสื่อทางการวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี นายทองสิง ทำมะวง ได้นำเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวงลงเยี่ยมเยือนราษฎรผู้ประสบเคราะห์ในเขตเมืองกาสี กับบางหมู่บ้านในเขตเมืองวังเวียง
นายกรัฐมนตรีและคณะนำเครื่องช่วยเหลือไปมอบให้ผู้ประสบภัย มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินให้หมู่บ้านละ 5 ล้านกีบ (260 กีบ/บาท) และพบว่าทุกแห่งราษฎรเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เกิดโรคเท้าเปื่อย ท้องร่วง ตาแดงและอื่นๆ เศรษฐกิจ-สังคม กล่าว