ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เครื่องบินเที่ยวบินในประเทศของสายการบินเวียดนามต้องนำผู้โดยสาร 180 คน ลงจากเครื่องเพื่อตรวจหาวัตถุระเบิดในบ่ายวันเสาร์ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะจะบินขึ้นจากสนามนครโฮจิมินห์ ไปยังนครด่าหนัง (Đà Nẵng) ในภาคกลาง ทำให้ต้องเสียเวลาไป 2 ชั่วโมงกับ 45 นาที
สายการบินนี้ กล่าวว่า เป็นการกระทำตามวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัย หลังจากผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งพูดเล่นๆ กับผู้โดยสารเวียดนามที่นั่งติดกันว่า ว่าภายในกระเป๋าของเขามีระเบิด และผู้โดยสารสตรีชาวฝรั่งเศสอีกคนหนึ่งได้ยินเข้า จึงรายงานเจ้าหน้าที่บนเครื่อง ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนเตี๊ยบถิ (Sài Gòn Tiếp Thị) หรือ “การตลาดไซ่ง่อน”
ผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสต้นเหตุ คือ นายมาริอาโน อาโกสตินี (Mariano Agostini) ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ในภายหลัง ว่า เป็นเพียงการพูดตลกๆ เท่านั้น แต่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสายการบินและท่าอากาศยานไม่ตลกด้วย และ กัปตันสั่งให้ผู้โดยสารทุกคนลงจากเครื่อง เพื่อค้นหาวัตถุระเบิดทั้งบนเครื่อง และตรวจกระเป๋าทุกใบอีกครั้งหนึ่ง
เวียดนามแอร์ไลนส์ กล่าวว่า เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา ซึ่งทำให้เที่ยวบิน VN1316 เสียบเวลาไปร่วม 3 ชั่วโมง ก่อนจะบินขึ้นเวลาประมาณ 15.15 น.เจ้าหน้าที่ รปภ.การท่าอากาศยานภาคใต้ได้ยึดหนังสือเดินทางของผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสรายนี้ และไม่ให้เดินทางไปกับเที่ยวบินที่ตัวเขาทำให้เกิดปัญหา หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว
หลายปีมานี้ได้เกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้มาหลายครั้งกับเวียดนามแอร์ไลนส์ แต่เป็นครั้งแรกที่ผู้โดยสารชาวต่างชาติก่อความยุ่งยาก และผู้โดยสารที่ก่อเหตุการณ์เช่นนี้ทุกกรณีที่ผ่านมา จะถูกห้ามขึ้นเครื่องของสายการบินแห่งชาติตลอดชีวิต บางกรณีถูกฟ้องเรียกค่าเสียเวลา และค่าเสียหายอื่นๆ ที่ติดตามมาอีกด้วย
ในเช้าวันอาทิตย์ 15 พ.ค.นี้ ยังเกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกี่ยวกับสายการบิน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจผู้โดยสารขณะจะขึ้นเครื่องของสายการบินต้นทุนต่ำเจ็ทสตาร์แปซิฟิก และพบผู้โดยสารคนหนึ่งซุกซ่อนเฮโรอีนไว้ในตัว
ผู้โดยสารดังกล่าวเป็นชาวเวียดนาม จาก จ.ฝูเอียน (Phú Yên) แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับชนิดและปริมาณของยาเสพติดร้ายแรงที่ค้นเจอ เหตุการณ์นี้ทำให้เที่ยวบินเช้า BL790 จากโฮจิมินห์ ไปยังกรุงฮานอย ต้องถูกยกเลิกไป ไซ่ง่อนเตี๊ยบถิกล่าว
