ซินหัว - เจ้าหน้าที่ของกัมพูชา ระบุวานนี้ (24 เม.ย.) ว่า ในช่วงเวลา 3 วันของเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารของไทย และกัมพูชา บริเวณพรมแดน มีชาวเขมร 17,200 คน จาก 4,285 ครอบครัว ต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว
นายนิ่ม วันดา รองประธานคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติกัมพูชา กล่าวว่า ชาวเขมรได้อพยพไปยังที่หลบภัยใน อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ห่างจากบริเวณต่อสู้ประมาณ 30 กม.โดยจุดปะทะเกิดขึ้นในบริเวณปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย ใน จ.อุดรมีชัย ตั้งแต่วันศุกร์ (22 เม.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย และว่า ตัวปราสาท และทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย
รายงานระบุว่า ในระหว่างการปะทะกัน มีทหารของกัมพูชาเสียชีวิต 6 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 16 นาย ส่วนฝั่งไทย มีนายทหารเสียชีวิต 4 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 17 นาย
ทั้งนี้ พรมแดนระหว่างไทย และ กัมพูชา ยังปักปันเขตแดนไม่แล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ และปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ถูกจัดให้เป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อวันที่ 7 ก.ค.2551 ซึ่งไทยอ้างสิทธิเป็นเจ้าของพื้นที่ 4.6 ตาราง กม.ถัดจากปราสาท เพียงสัปดาห์เดียวหลังปราสาทถูกจัดให้เป็นแหล่งมรดกโลก กัมพูชา และไทย ก็มีความขัดแย้งเกี่ยวกับพรมแดนบริเวณดังกล่าว ทำให้ทั้งสองประเทศต้องวางกำลังทหารของตนไว้ตามแนวชายแดน และเกิดการปะทะกันขึ้นเป็นระยะๆ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย