xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามศูนย์กาแฟโลก ผุดโรงงานผลิตใหญ่ในภาคกลาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 22 ก.พ.2554 คนงานกำลังสุ่มตัวอย่างเม็ดกาแฟโรบัสตาที่โรงงานบริษัทแอตแลนติกคอมโมดิตีส์ชานนครโฮจิมินห์ ในขณะที่เป็นช่วงขาขึ้น ราคารับซื้อในประเทศพุ่งขึ้นเป็น 2,132-2,156 ดอลลาร์ต่อตันซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การก่อสร้างโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปแห่งที่ 2 แต่มีขนาดใหญ่ที่สุดเริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่ จ.ดั๊กลัก (Đắk Lắk) ในเขตสวนกาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค และจะเริ่มผลิตในไม่กี่เดือนข้างหน้า เวียดนามส่งออกกาแฟโรบัสตามากเป็นอันดับ 1 ของโลก และเป็นอันดับ 2 โดยรวม รองจากบราซิลเท่านั้น.--REUTERS/Kham.</font>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- โรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปใหญ่ที่สุดในเอเชีย เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วใน จ.ดั๊กลัก (Đắk Lắk) มีกำหนดเปิดเดินเครื่องในเดือน ก.ค.ปีนี้ ด้วยกำลังผลิตปีละ 10,000 ตัน ซึ่งจะจ้างแรงงานในท้องถิ่นกว่า 1,200 คน แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ข่าวดีทั้งหมด

โรงงานมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ของบริษัท คอฟฟีโค (Coffee Co Ltd) จากอินเดีย เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือน ก.ย.2553 ในเนื้อที่ 24 เฮกตาร์ (150 ไร่) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง ซึ่งวันนี้กลายเป็นสวนการแฟใหญ่ แห่งใหม่ล่าสุดของโลก

กว่า 10 ปีมานี้ เวียดนามขยายเนื้อที่ปลูกกาแฟอย่างกว้างขวาง จ.ดั๊กลัก แห่งเดียวมีสวนกาแฟกว่า 180,000 เฮกตาร์ (กว่า 1.25 ล้านไร่) เมื่อรวมจังหวัดใกล้เคียง เนื้อที่ทั้งหมดมีถึง 545,200 เฮกตาร์ (3,426,350 ไร่) เพิ่มขึ้น 1.8% ฤดูเก็บเกี่ยว 2553-2554 ซึ่งเริ่มในเดือน ต.ค.คาดว่า ได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 1.12 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.6% จากปีที่แล้ว

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม เปิดเผยตัวเลขนี้ ในการประชุมสัมมนาที่เมืองบวนมาท๊วด (Buôn Ma Thuột) ในวันที่ 13 มี.ค.2554 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลกาแฟประจำปีของที่นั่น หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ กล่าว

ทั้งหมดนี้ทำให้เวียดนามกลายเป็นผู้ส่งออกกาแฟใหญ่อันดับ 2 ของโลก ถัดจากบราซิล แต่เป็นอันดับ 1 สำหรับกาแฟโรบัสตา (Robusta) หนึ่งในกาแฟ 2 ชนิดที่ผลิตและบริโภคกันทั่วโลก ปลูกได้ง่ายกว่า ดูแลง่ายกว่าและให้ผลผลิตมากกว่า แต่ราคาต่ำกว่าอาราบิกา (Arabica)

ปัจจุบันกาแฟเป็นสินค้าการเกษตรส่งออกอันดับ 2 ของเวียดนาม ถัดจากข้าว ทำรายได้เข้าจีดีพีประมาณ 2% ต่อปี เกี่ยวพันกับชีวิตเกษตรกรนับแสนๆ ครัวเรือนกับแรงงาน 1.6 ล้านคน และมีผู้ส่งออกถึง 146 ส่งขาย 80 ประเทศ และดินแดนทั่วโลก

ราคากาแฟโรบัสตาปรับขึ้นลงบ่อยๆ ขึ้นอยู่กับตลาดโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่นำไปผลิตกาแฟสำเร็จรูปเช่นกัน แต่ปีนี้ราคาอยู่ในระดับดี เนื่องจากลมฟ้าอากาศที่ผันผวนกับภัยธรรมชาติทำให้ประเทศต่างๆ ผลิตได้น้อยลง ฤดูผลิตราคาที่สวนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2 ดอลลาร์ต่อ กก.

อาราบิกามีกลิ่นหอมกรุ่นจัดจ้านกว่า และรสชาติไม่เข้มเท่าโรบัสตา ตลาดจึงนิยมชนิดเมล็ดคั่วบด เพื่อทำเป็น “กาแฟสด”
javascript:EditHTMLwin('1',%20document.f2.ContentSelect[0]);
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 22 ก.พ.2554 เจ้าหน้าที่กำลังตรวจคัดคุณภาพเม็ดกาแฟโรบัสตาที่โรงงานบริษัทแอตแลนติกคอมโมดิตีส์ชานนครโฮจิมินห์ ในขณะที่เป็นช่วงขาขึ้น ราคารับซื้อในประเทศพุ่งขึ้นเป็น 2,132-2,156 ดอลลาร์ต่อตันซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การก่อสร้างโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปแห่งที่ 2 แต่มีขนาดใหญ่ที่สุดเริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่ จ.ดั๊กลัก (Đắk Lắk)  ในเขตสวนกาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค และจะเริ่มผลิตในเดือน ก.ค.ปีนี้ เวียดนามส่งออกกาแฟโรบัสตามากเป็นอันดับ 1 ของโลก และเป็นอันดับ 2 โดยรวม รองจากบราซิลเท่านั้น.--REUTERS/Kham.</font>
2
เพราะฉะนั้นโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปที่สร้างขึ้นในแหล่งผลิต เป็นทางออกที่ดีสำหรับเกษตรกร แต่ขณะเดียวกัน เป็นการตัดอนาคตผู้ส่งออกทั่วประเทศ

โรงงานของบริษัทจากอินเดียไม่ใช่แห่งแรก เดือน เม.ย.2553 กลุ่มโอลาม (Olam) จากสิงคโปร์ ในนามของบริษัทลูกเอ้าต์สแปนเวียดนาม (Out Span Vietnam) เปิดโรงงานแรกขึ้นใน จ.ลองอาน (Long An) ใกล้นครโฮจิมินห์ ไกลจากแหล่งปลูก แต่อยู่ใกล้ท่าเรือใหญ่

โรงงานอยู่ในเนื้อที่เพียง 30 ไร่เศษ แต่ลงทุนสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากใช้เครื่องจักรที่ผลิตทั้งกาแฟสำเร็จรูปแบบสเปรย์ดรายทั่วไปและแบบเกล็ดฟรีซดรายที่ผลิตยากกว่าแต่คุณภาพดีกว่า ด้วยกำลังผลิตปีละ 4,000 ตันต่อปี ส่งขายยุโรป รัสเซีย ญี่ปุ่นและตะวันออกกลาง

เดือน ม.ค.ปีเดียวกัน กลุ่มเดียวกันนี้ได้ประกาศแผนลงทุนปลูกกาแฟ 3,000 เฮกตาร์ (18,750 ไร่) ในเขตเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก ซึ่งเป็นเขตสวนกาแฟของลาว และโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปของกลุ่มดาวเฮืองในแขวงดังกล่าวมีกำหนดเดินเครื่องในปลายปีนี้ ด้วยกำลังผลิต 3,000 ตัน

ทั่วทั้งอาณาบริเวณนี้ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงได้ขยายตัวกลายเป็นสวนกาแฟแห่งเอเชียอย่างเงียบๆ และทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ.
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 22 ก.พ.2554 คนงานกำลังนำเม็ดกาแฟบรรจุกระสอบขึ้นรถบรรทุกในโรงงานบริษัทแอตแลนติกคอมโมดิตีส์ชานนครโฮจิมินห์ ราคารับซื้อในประเทศพุ่งขึ้นเป็น 2,132-2,156 ดอลลาร์ต่อตันซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การก่อสร้างโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปแห่งที่ 2 แต่มีขนาดใหญ่ที่สุดเริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่ จ.ดั๊กลัก (Đắk Lắk)  ในเขตสวนกาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค และจะเริ่มผลิตในเดือน ก.ค.ปีนี้ เวียดนามส่งออกกาแฟโรบัสตามากเป็นอันดับ 1 ของโลก และเป็นอันดับ 2 โดยรวม รองจากบราซิลเท่านั้น.--REUTERS/Kham.</font>
3
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 22 ก.พ.2554 คนงานกำลังนำเม็ดกาแฟบรรจุกระสอบขึ้นรถบรรทุกในโรงงานบริษัทแอตแลนติกคอมโมดิตีส์ชานนครโฮจิมินห์ ราคารับซื้อในประเทศพุ่งขึ้นเป็น 2,132-2,156 ดอลลาร์ต่อตันซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การก่อสร้างโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปแห่งที่ 2 แต่มีขนาดใหญ่ที่สุดเริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่ จ.ดั๊กลัก (Đắk Lắk)  ในเขตสวนกาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค และจะเริ่มผลิตในเดือน ก.ค.ปีนี้ เวียดนามส่งออกกาแฟโรบัสตามากเป็นอันดับ 1 ของโลก และเป็นอันดับ 2 โดยรวม รองจากบราซิลเท่านั้น.--REUTERS/Kham.</font>
4
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 23 ก.พ.2554 คนงานกำลังรดน้ำต้นชาที่กำลังแตกพุ่มเขียวสดใส ในเขต อ.ดีลีง (Di Linh) จ.เลิมด่ง (Lâm Đồng) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง หรือ “เตย-งเวียน” (Tây Nguyên) อาณาบริเวณนี้เป็นเขตสวนชากาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค เวียดนามเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล และส่งออกใบชาเพิ่มขึ้นทุกปี.--REUTERS/Kham.</font>
5
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 23 ก.พ.2554 คนงานกำลังรดน้ำต้นชาที่กำลังแตกพุ่มเขียวสดใส ในเขต อ.ดีลีง (Di Linh) จ.เลิมด่ง (Lâm Đồng) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง หรือ “เตย-งเวียน” (Tây Nguyên) อาณาบริเวณนี้เป็นเขตสวนชากาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค เวียดนามเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล และส่งออกใบชาเพิ่มขึ้นทุกปี.--REUTERS/Kham.</font>
6
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 23 ก.พ.2554 คนงานกำลังเก็บใบชาที่สวนของครอบครัวในเขต อ.ดีลีง (Di Linh) จ.เลิมด่ง (Lâm Đồng) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง หรือ “เตย-งเวียน” (Tây Nguyên) อาณาบริเวณนี้เป็นเขตสวนชากาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค เวียดนามเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล และส่งออกใบชาเพิ่มขึ้นทุกปี.--REUTERS/Kham.</font>
7
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 23 ก.พ.2554 คนงานกำลังรดน้ำต้นชาที่กำลังแตกพุ่มเขียวสดใส ในเขต อ.ดีลีง (Di Linh) จ.เลิมด่ง (Lâm Đồng) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง หรือ “เตย-งเวียน” (Tây Nguyên) อาณาบริเวณนี้เป็นเขตสวนชากาแฟใหญ่ของอนุภูมิภาค เวียดนามเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล และส่งออกใบชาเพิ่มขึ้นทุกปี.--REUTERS/Kham.</font>
8
(ตีพิมพ์ครั้งแรกใน “ผู้จัดการ360องศารายสัปดาห์” ฉบับวันที่ 21-27 มีนาคม 2554)
กำลังโหลดความคิดเห็น