ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- การจราจรในกรุงฮานอยติดขัดหนักขึ้นทุกวันๆ และกลายเป็นวิกฤตในชั่วโมงเร่งด่วน ในขณะที่จำนวนยานพาหนะบนท้องถนนเพิ่มขึ้นในอัตราสูงมาก แต่การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนดำเนินไปอย่างล่าช้า และจะต้องใช้เงินทุนอีกมหาศาลในการพัฒนาต่อเนื่องช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
ตามสถิติอย่างเป็นทางการ ปี 2553 กรุงฮานอยได้จดทะเบียนรถยนต์ใหม่เฉลี่ยเดือนละกว่า 1,000 คัน รถจักรยานยนต์อีกเดือนละกว่า 10,000 คัน ซึ่งได้ซ้ำเติมปัญหาการจราจร
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีการได้ก่อสร้างทางด่วนหลายสาย และพัฒนายกระดับถนนหนทางที่มีอยู่อีกหลายสาย จัดสร้างสะพานลอยต่างระดับและอุโมงค์ลอดสี่แยกที่มียวดยานพลุกพล่าน แต่ทั้งหมดก็ยังไม่อาจะแก้ปัญหาได้ท่วงทันกับการเพิ่มของยานพาหนะ
ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน-ใต้ดินบนดิน 2 สายแรกจากทั้งหมด 4 สาย แต่การก่อสร้างพบอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเวนคืนที่ดินและการโยกย้ายราษฎรที่ได้รับผลกระทบออกจากแนวก่อสร้าง ซึ่งทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปหมด
ตามรายงานของสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) กรุงฮานอย ต้องการเงินทุนอีกอีกราว 10,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อก่อสร้างระบบขนส่ง ซึ่งจะต้องใช้ทั้งเงินงบประมาณ การระทมทุนจากการออกพันธบัตรและ เงินจากความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาโดยตรง หรือ ODA (Official Direct Assistance) จากประเทศและองค์การต่างๆ
ทางการจัดอันดับเร่งด่วนให้แก่การพัฒนายกระดับทางหลวงอีก 4 สาย และ พัฒนายกระดับทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ รอบทิศ เพื่อลดปัญหาการจราจรตัดขัดในตัวเมืองและ ขยายถนนจากตัวเมืองออกไปอีก
จนถึงสิ้นเดือน ม.ค.2554 กรุงฮานอยได้จดทะเบียนรถยนต์ชนิดต่างๆ ไปจำนวน 350,000 คัน จักรยานยนต์อีก 3.6 ล้านคัน ปีนี้คาดว่าจะมีรถยนต์เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 90,000 คัน รถจักรยานยนต์อีก 227,000 คัน ปัจจุบันทั่วเมืองหลวงมีกว่า 60 จุด ที่การจราจรติดขัดอย่างหนัก
ปีที่แล้วมีผู้ถูกลงโทษเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎจราจรกว่า 10,000 ราย เก็บค่าปรับเข้างบประมาณรัฐได้กว่า 200 ล้านด่งหรือ 9.66 ล้านดอลลาร์ สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยม กล่าว