xs
xsm
sm
md
lg

“ฮุนเซน” ไม่สนยูเอ็น-อาเซียน ส่งศาลโลกตีความคำพิพากษาปราสาทพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033O>ฮุนเซนประกาศอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันอังคาร 22 ก.พ.2554 กัมพูชาได้ส่งเอกสารถึงศาลระหว่างประเทศกรุงเฮกแล้ว ขอให้ตีความคำพิพากษาเมื่อ 49 ปีก่อน เพื่อชี้ขาดว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาทพระวิหารตกเป็นของกัมพูชาไปด้วยหรือไม่ ขณะที่รัฐบาลไทยได้ยื่นคัดค้านเรื่องนี้เอาไว้เมื่อ 49 ปีที่แล้วเช่นกัน.--  ภาพ: AKP.</font>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐบาลกัมพูชาได้ส่ง “เอกสาร” ไปให้ศาลระหว่างประเทศ กรุงเฮก แล้ว ตามที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ประกาศในวันอังคาร 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มีแต่ศาลระหว่างประเทศเท่านั้น ที่จะแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งชายแดนกัมพูชากับไทยได้ คณะสังเกตการณ์จากอินโดนีเซีย หรือกลุ่มอาเซียน แม้กระทั่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) ไม่อาจจะแก้ไขได้

ฮุนเซน ระบุดังกล่าวระหว่างปราศรัยในงานประทานปริญญาบัตร ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยโรยัลแคมโบเดีย ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse) ซึ่งเป็นของรัฐบาล

ฮุนเซนเคยพูดถึงเรื่องนี้ครั้งแรกวันศุกร์สัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า ครั้งนี้ไม่ใช่การขอให้ศาลระหว่างประเทศพิจารณาปัญหาเดิม แต่จะขอให้พิจารณาปัญหาพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร โดยรอบ ว่า ตกเป็นของกัมพูชาพร้อมกับปราสาทพระวิหาร ตามคำพิพากษาในเดือน มี.ค.2505 หรือไม่

ฮุนเซน กล่าวในวันอังคาร ว่า คณะสังเกตการณ์ของอินโดนีเซีย อาจจะช่วยลดความตึงเครียดได้ แต่จะไม่สามารถช่วยแก้ไขความขัดแย้งใดๆ ได้

สำนักข่าวของทางการ กล่าวว่า ปัญหาเกิดขึ้นจากการตีความ และการใช้แผนที่กันคนละฉบับ ขณะที่กัมพูชาใช้แผนที่ที่ได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยใช้แผนที่ที่จัดทำขึ้นเอง

ความขัดแย้งเกี่ยวกับพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร เริ่มมาตั้งแต่ศาลโลกพิพากษาให้ปราสาทตกเป็นของกัมพูชา

รัฐบาลไทยสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งแม้จะยอมรับการพิพากษา แต่ก็ได้ทำหนังสือถึงศาลระหว่างประเทศกรุงเฮก คัดค้านอย่างเป็นทางการ การรวมเอาดินแดนรอบๆ ประสาทเข้าไปด้วย และยังไม่เคยมีการพิจารณาเรื่องนี้มาเป็นเวลาเกือบ 50 ปีแล้ว
<bR><FONT color=#000033O>นักศึกษามหาวิทยาลัยโรยัลแคมโบเดีย เข้ารับปริญญาบัตรจากมือผู้นำในวันอังคาร 22 ก.พ.2554 ทุกความเคลื่อนไหวมีความหมาย ฮุนเซนจะเลือกกลุ่มเป้าหมายนี้ทุกครั้งเมื่อพูดถึงผลประโยชน์ของประเทศ เพื่อเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ สำหรับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นปีหน้า. --  ภาพ: AKP.</font>
กำลังโหลดความคิดเห็น