ASTVผู้จัดการออนไลน์ --- กัมพูชากำลังโหมกระพือให้ร้ายป้ายสีไทยในโค้งสุดท้ายก่อนสหประชาชาติจะเปิดประชุมพิจารณาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในวันจันทร์นี้ นายซกอาน บอกกับเอกอัครราชทูตอังกฤษ กับเอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำกรุงพนมเปญ ว่า กองทัพไทยใช้ “อาวุธที่ไม่ธรรมดา” ทำ “สงคราม” กับกัมพูชา ระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ.2554 รวมทั้งกระสุนปืนใหญ่บรรจุระเบิดพวง (Cluster Bomb) และก๊าซพิษด้วย
ความพยายามดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประกาศว่า กัมพูชาไม่เคยมีทหารประจำที่ปราสาทพระวิหาร ถูกเปิดโปงด้วยภาพถ่ายของสำนักข่าวต่างๆ ทำให้ความพยายามในการกุเรื่องกล่าวหาว่า ฝ่ายไทยตั้งใจยิงทำลายปราสาทเก่าแก่มรดกโลกจน “พังไปแถบหนึ่ง” นั้นดูไร้น้ำหนัก
ทั้งอังกฤษและรัสเซียต่างเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เช่นเดียวกันกับ จีน และสหรัฐฯ ที่สามารถใช้สิทธิยับยั้งข้อมติใดๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง (UN Security Council) ได้
นายซกอาน ที่เป็นทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นคนใกล้ชิดที่ได้รับความไว้วางใจจากฮุนเซน ยังกล่าวหาอีกว่า “พวกหัวรุนแรงไทย” คือ พวกคนเสื้อเหลือง ได้กดดันให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ส่งทหารเข้าขับไล่ราษฎรกัมพูชาออกจากบริเวณรอบๆ ปราสาทพระวิหาร
“ดังนั้น สถานการณ์ปัจจุบันจึงอันตรายมาก เราเห็นว่า นายรัฐมนตรีไทย อภิสิทธิ์ กำลังทำเพื่อให้พวกเสื้อเหลืองบรรลุความต้องการในการยึดเอาดินแดนดินแดนของกัมพูชา” นายอาน วาดภาพกล่าวหาต่อไป
นายอาน ยังสร้างเรื่องโกหกพกลมต่อไปอีก โดยอ้างข้อมูลของแหล่งข่าวทหาร ว่า ขณะนี้ไทยได้ส่งทหารราว 25,000 คน เข้าประชิดชายแดนกัมพูชา ส่งถังอีกกว่า 100 คัน และปืนใหญ่อีกจำนวนมากสนับสนุน
กัมพูชากำลังพยายามโหมกระพือ ทำให้สถานการณ์ชายแดนอยู่ในสภาพเลวร้าย โดยกล่าวหาว่า ฝ่ายไทยมีแผนการจะบุกยึดดินแดนกัมพูชา ก่อนหน้านี้ นายกฯ ฮุนเซน กล่าวว่า สถานการณ์ช่วงในที่ 4-7 ก.พ.ที่ผ่านมานั้นไม่ใช่ “การปะทะ” หากเป็น “สงคราม” และเรียกร้องให้สหประชาชาติดำเนินการเร่งด่วน จัดส่งทหารเข้าตั้ง “เขตกันชน” ที่ชายแดน
คณะมนตรีความมั่นคงฯ กำลังจะเปิดประชุมลับในวันจันทร์นี้ ในนครนิวยอร์ก นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย กับ นายฮอร์นัมฮง ของฝ่ายกัมพูชา จะเข้าให้ข้อมูลแบบตัวต่อตัว โดยมี นายมาร์ตี นาตาเลกาวา (Marty Natalegawa) รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย เข้าร่วมด้วย
รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทำหน้าที่ประธานกลุ่มอาเซียนในปีนี้ ได้เดินทางไปพบกับทั้งฝ่ายกัมพูชา และฝ่ายไทย ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ในความพยายามไกล่เกลี่ย
กัมพูชาพยายามมาตั้งแต่ปี 2551 ที่จะขยายปัญหาชายแดน ซึ่งเป็นปัญหาสองฝ่าย ให้เป็นปัญหาระหว่างประเทศ ขณะที่ไทยยืนยันว่าจะต้องแก้ไขแบบทวิภาคีเท่านั้น
กัมพูชานำปัญหาชายแดนเข้า UNSC ครั้งแรกในเดือน ก.ค.2551 ขณะเวียดนามกำลังทำหน้าที่ประธานการประชุมประจำเดือน หลังจากสองฝ่ายเผชิญหน้ากันในพื้นที่ทับซ้อนๆ รอบๆ ปราสาท ที่ไทยได้กล่าวอ้างเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเช่นกัน
แต่เวียดนามต้องถอนเรื่องนี้ออกจาก UNSC หลังจากกลุ่มอาเซียนที่สิงคโปร์กำลังทำหน้าที่ผู้นำ ได้เข้าไกล่เกลี่ย นำไปสู่การเจรจาสองฝ่าย และถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทฝ่ายละหลายร้อยนาย
“สถานการณ์หนักหน่วงมาก อันตรายมาก ไม่มีใครบอกได้ว่าไทยจะโจมตีเราอีกเมื่อไร” นายอาน บอกกับทูตอังกฤษ กับทูตรัสเซีย ในตอนค่ำวันศุกร์ 11 ก.พ.ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเคพี ซึ่งเป็นของรัฐบาล
“สงคราม” ที่เพิ่งจะผ่านไปนี้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 4 คน พลเรือนอีก 2 ตำรวจอีก 1 มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 30 คน จากการยิงถล่มของไทย ราษฎรอีกกว่า 3,000 ครัวเรือน รวมกว่า 10,000 คน ต้องอพยพจากพื้นที่ นายอาน กล่าว
เล่ห์กลของฝ่ายกัมพูชาเป็นที่ชัดเจนมาก คือ ต้องการให้ยูเอ็นเข้าแทรกแซง ปัญหานี้เพื่อยึดครองพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรต่อไป โดยอ้างแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ซึ่งขัดเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาปักปันเขตแดนฝรั่งเศส-สยาม ที่ให้ใช้สันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดนธรรมชาติ
เมื่อกัมพูชาผลักดันปัญหาเข้า UNSC ครั้งแรกในปี 2551 นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำยูเอ็น ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ระบุว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะเรียกร้องดินแดนอื่นๆ อีกหลายแห่งตลอดแนวชายแดน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเรื่องนี้เมื่อวันที่ 23 ก.ค.
“กรณีนี้ได้ไปไกลกว่าพระวิหาร ซึ่งตกเป็นของพวกเขาเรียบร้อยไปแล้ว” และกัมพูชากำลังพยายามทำให้ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสฉบับหนึ่ง ที่จัดทำขึ้นครั้งที่กัมพูชา ยังเป็นดินแดนอาณานิคม ซึ่งจะทำให้ได้ดินแดนอีกหลายจุดที่ไทยกล่าวอ้างอธิปไตยอยู่ในขณะนี้
“บางครั้งมิตรภาพอันจริงใจของเรา ก็ทำให้เรามองข้ามเจตนาอันสูงสุดของเพื่อนบ้านเราไป” นายดอน กล่าว
“ในกรณีนี้พวกเขาใช้ยุทธวิธีกองโจรในการโจมตีเรา” เอกอัครราชทูตไทยประจำยูเอ็นในครั้งนั้น กล่าว