.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา พลเอกเตียบัญ ได้เล่าสถานการณ์ที่ชายแดนกัมพูชาไทย ให้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่ไปเยือนได้ทราบ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ระหว่างการพบปะในกรุงพนมเปญ ขณะที่กัมพูชาเสริมกำลังทหาร และอาวุธหนัก เข้าสู่ชายแดนภาคเหนือติดกับไทยตลอดทั้งแนวในช่วงนี้
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเคพี นายเดเร็ค มิตเชล (Derek Mitchell) กำลังเยือนกรุงพนมเปญเพื่อเจรจาเกี่ยวกับนโยบายกลาโหม สานต่อความร่วมมือระหว่างสองประเทศ หลังจาก พล.อ.เตียบัญ เดินทางเยือนสหรัฐฯในเดือน ก.ย.2552
สองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ และการเกษียณอายุราชการของทหาร รวมทั้งสวัสดิ์ภาพของทหารที่สูญเสียอวัยวะต่างๆ ด้วย เอเคพีกล่าว
“ในการกล่าวตอบ ฯพณฯ เตียบัญ ได้บอกกับแขกสหรัฐฯ เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ในเขตปราสาทพระวิหารด้วย” สำนักข่าวของทางการรายงานโดยไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีก
เมื่อปีที่แล้ว พล.อ.เตียบัญ ได้รับเชิญไปเยือนสหรัฐฯ และได้พบหารือกับ นายโรเบิร์ต เกตส์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ นับเป็นผู้นำทหารคนแรกจากกัมพูชาที่ไปเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในรอบกว่า 30 ปี
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้เข้าไปพัวพันกับกัมพูชาในช่วงที่กำลังมีความตึงเครียดกับไทยอย่างบังเอิญอย่างน้อย 2 ครั้ง
ในเดือน มิ.ย.2551 ขณะ ไทย-กัมพูชา กำลังพันตูกันเรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก สหรัฐฯ ได้นำรถบรรทุกทหารยีเอ็มซีใช้แล้ว 30 คันแรกไปมอบให้กองทัพกัมพูชา ข้ามเดือนต่อมาสองฝ่ายเกิดเผชิญหน้ากันบนเขาพระวิหารนำไปสู่การปะทะครั้งแรกในวันที่ 15 ต.ค.ปีนั้น
พอวันที่ 30 ต.ค.หรือ หลังการปะทะกันเพียง 2 สัปดาห์ สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญได้มอบเต็นท์ยางสำหรับทหารจำนวน 737 หลัง พร้อมรถพยาบาลอีกหนึ่งคันให้กัมพูชา
สหรัฐฯ บริจาคเต็นท์ทหารเพื่อให้นำไปใช้สำหรับกองกำลังรักษาชายแดนและกองกำลังรักษาความปลอดภัยน่านน้ำ
.
.
ส่วนรถพยาบาลให้ใช้สำหรับศูนย์บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ สำนักข่าวของรัฐบาล กล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ภายใต้โครงการช่วยเหลือด้านการทหาร (U.S. Foreign Military Financing program) ในการกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับกัมพูชา
ความสัมพันธ์ทางทหารของสองประเทศนี้ ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากมึนตึงต่อกันมา ตั้งแต่ครั้งนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ก่อรัฐประหารโค่นกรมพระนโรดมรณฤทธิ์ นายกรัฐมนตรีร่วมตำแหน่งในปี 2540
ที่ผ่านมา มีผู้บัญชาการทหารระดับอาวุโสของสหรัฐฯ อย่างน้อย 3 คน ได้เดินทางเยือนกัมพูชา และในเดือน ก.พ.2550 เรือแกรี่ (USS Gary) ได้กลายเป็นเรือรบลำแรกของสหรัฐฯ ที่เดินทางไปแวะเยือนกัมพูชา ในรอบกว่า 30 ปี กองเรือนี้ได้กลับไปแวะเยือนอีกครั้งปลายปีที่แล้ว
ปีที่แล้วเช่นกัน สหรัฐฯ ได้จัดการฝึกซ้อมทางทหารขึ้นในกัมพูชาเป็นครั้งแรกภายใต้แผนการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ไปเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ กำลังจะมีการฝึกคล้ายกันนี้อีกครั้งหนึ่ง ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ตามรายงานของเอเคพี ผช.รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงพนมเปญตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา และมีกำหนดเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ฝึกทหารใน จ.กัมปงสปือ (Kampong Speu) ด้วย.