ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ปี 2553 รัฐบาลลาวได้รับเงินอีกประมาณ 32 ล้านดอลลาร์ เป็นส่วนแบ่งรายได้จากหุ้น 10% ที่ถืออยู่ในบริษัท เอ็มเอ็มจี ล้านช้างมิเนอรัลส์ (MMG Lane Xang Minerals Ltd) เจ้าของสัมปทานลงทุนสำรวจและผลิตที่เมืองทองเซโปน ซึ่งปัจจุบันเป็นเหมืองทองใหญ่ที่สุดในประเทศ ผลิตทั้งทอง ทองแดงและแร่เงินออกสู่ตลาดโลก
บริษัท MMG XLML มอบส่วนแบ่งรายได้ให้กระทรวงการเงินของลาวครั้งแรกในเดือน มิ.ย.2553 เป็นเงิน 14.4 ล้านดอลลาร์ และครั้งที่ 2 มอบเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.อีก 18 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งปี 32.4 ล้านดอลลาร์
หากนับรวมตั้งแต่ปี 2550 ที่ลาวเริ่มเข้าถือหุ้น 10% ในเหมืองทองที่เมืองวีละบูลี แขวงสะหวันนเขต เงินส่วนแบ่งรายได้จากหุ้นที่ถือรวมกันเป็นกว่า 50 ล้านดอลลาร์ สำนักข่าวลาว กล่าว
ส่วนแบ่งรายได้จากหุ้น เป็นเพียงรายได้ส่วนหนึ่งจากเหมืองทองแห่งนี้ นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาที่เริ่มส่งออกทองกับทองแดง จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2552-2553 (สิ้น มี.ค.2553) รัฐบาลลาวมีรายได้ทุกอย่างรวมกว่า 600 ล้านดอลลาร์
ทั้งหมดเป็นไปตามสัญญาระหว่าง MMG XLML กับรัฐบาลลาวที่ลงนามกันในปี 2536 ที่สำรวจแล้วเสร็จและเตรียมการก่อสร้างเหมืองเพื่อเริ่มการผลิต ขล.กล่าว
แต่เดิมเหมืองทองเซโปนถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มบริษัท อ๊อกเซียน่ารีสอร์ซเซส (Oxiana Resources) จากออสเตรเลีย
บริษัทนี้ประสบปัญหาการเงินอย่างหนักเมื่อวิกฤติการณ์การเงินโลกครั้งใหม่เริ่มขึ้นในปี 2551 มูลค่าทองแดงในตลาดโลกตกลงกว่าเท่าตัว ทำให้ต้องขายกิจการหลายแห่ง ทั้งในอินโดนีเซียและในลาวให้แก่กลุ่มบริษัทมินมีทัลส์ (Minmetals Group) ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ใหญ่ของรัฐบาลจีน
ลาวยังมีเหมืองทอง-ทองแดง อีก 3 แห่งในแขวงเวียงจันทน์ 2 แห่งเริ่มการผลิตและส่งออกแล้วเช่นกัน อีก 1 แห่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ประเทศนี้ยังรุ่มรวยด้วยแร่ธาตุอีกหลายชนิด รวมทั้งแร่บอกไซต์ (Bauxite) แร่ที่นับวันหายาก ที่นำไปสกัดเป็นอลูมินา (Alumina) ใช้ในการผลิตอะลูมิเนียม