เวียดนามจับฉลามแพะอีกตัว ตังเกบ่นขาดทุนยับเนื้อขายไม่ออก

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสมุทรศาสตร์แห่งนครญาจาง (Nha Trang) ลงความเห็นว่า ปลาฉลามตัวล่าสุดที่ชาวประมง ลากเข้าฝั่งสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ใช่สัตว์น้ำตัวการที่กัดคนไปราว 10 คนในช่วงหลายเดือนมานี้ ขณะที่นักล่ากล่าวว่าพวกตนขาดทุนย่อยยับ เนื้อฉลามขายไม่ออก

นับเป็นฉลามเคราะห์ร้ายตัวที่ 2 ที่ถูกล่าขึ้นมาโดยไม่ได้คุกคามผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นนักว่ายน้ำและคนหาปลา ในบริเวณอ่าวกวีเญิน (Quy Nhon) อ่าวท่องเที่ยวสำคัญใน จ.บี่งดีง (Binh Dinh)

ฉลามต้องสงสัยตัวล่าสุดนี้มีความยาว 2.7 เมตร วัดรอบตัวได้เกือบ 2 เมตร ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า รอยกัดบนแขนและขาของเหยื่อ ที่ถูกสัตว์ใต้ทะเลกัดในเดือน ม.ค.วัดขนาดกว้างเพียง 19 ซม.เท่านั้น ในขณะที่วัดรอบปากฉลามตัวใหม่นี้กว้างกว่า 50 ซม.ซึ่งถ้าหากกัดใครเข้า แขนขาก็คงจะหลุดติดปากไปด้วยอย่างแน่แท้

ชาวประมงนักล่าเงินรางวัลจาก จ.ฝูเอียน (Phu Yen) ที่อยู่ติดกัน ได้นำกองเรือออกไล่ล่าหาฉลามในเขตอ่าวกวีเญินมาตั้งแต่กลางเดือน ม.ค.และในต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถลากฉลามตัวแรกเข้าฝั่งได้สำเร็จ ตลอดลำตัวของมันวัดได้ 5 เมตร น้ำหนักราว 1 ตัน

แต่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ฉลามใหญ่มหึมาขนาดนั้นสามารถกลืนคนได้ทั้งตัว จึงไม่ใช่สัตว์น้ำที่ทุกฝ่ายกำลังตามล่าอย่างแน่นอน นักล่าจึงยังไม่ได้เงินรางวัล แต่ก็สามารถแล่เนื้อขายในตลาด และตัดหู (ครีบ) จำหน่ายให้พ่อค้าจากนครโฮจิมินห์ ได้เงินรวมกันมากกว่าเงินรางวัลเสียอีก หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) รายงาน

ต่างไปจากกรณีที่แล้ว ฉลามตัวใหม่ไม่ได้รับความสนใจจากตลาด เนื้อขายไม่ออก ชาวประมงนักล่า กล่าวว่า พวกตนขาดทุนย่อยยับ กว่าจะมันจะติดอวนต้องใช้เวลาลากนานนับสัปดาห์ ต้องจ้างแรงงานจำนวนไม่น้อย ไหนจะค่าน้ำมัน จับได้แล้วต้องเข้าฝั่ง กลับไปเช่าเครื่องปั่นไฟ ใช้ไฟฟ้าช๊อตให้มันสิ้นสติ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาถึง 2 วันกว่าจะลากเข้าถึงฝั่ง

เทศบาลนครกวีเญิน ตั้งค่าหัวสัตว์น้ำที่กัดคนในอ่าวเป็นเงินกว่า 300 ดอลลาร์ ภาคเอกชนในธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวออกสมทบอีกจำนวนเท่าๆ กัน การออกไล่ล่าหาสัตว์น้ำตัวที่กัดคนยังดำเนินต่อไป