อดีตผู้ใหญ่บ้านร้องตำรวจกองปราบฯ ลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมตีในงานกาชาดบุรีรัมย์ ต่อหน้าตำรวจสายตรวจ และเสียชีวิตลงในที่สุด แต่คดีไม่คืบ ตามจับคนร้ายไม่ได้สักรายเดียว ซ้ำพนักงานสอบสวนยังจะปิดคดีอีก จึงต้องร้องกองปราบปรามให้ช่วยตรวจสอบ
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองปราบปราม นายอำนวย บุญยัง อายุ 54 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านตะขบ 2 สมัย อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 4 ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ถวิลบุญ พงส. (สบ 2) บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีที่บุตรชาย คือ นายสามารถ บุญยัง อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนธารทองพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คนรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณงานกาชาด จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2551 ก่อนจะเสียชีวิตที่ รพ.บุรีรัมย์ โดยภายหลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีตำรวจสายตรวจอยู่ในเหตุการณ์ นอกจากนี้ พ.ต.ต.อดิชาติ มีสา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้เร่งสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการพิจารณาเพื่อยุติคดี โดยที่ไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่ทำร้ายลูกชายมาดำเนินคดีได้แม้แต่รายเดียว
นายอำนวยกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุบุตรชายได้ไปเที่ยวงานกาชาด จ.บุรีรัมย์ กับเพื่อนรวม 9 คน โดยขณะที่กำลังเดินทางกลับเมื่อมาถึงบริเวณซอยโรงแรมวงศ์ทอง อ.เมือง กลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันได้แยกตัวไปก่อน เหลือเพียงบุตรชายกับ น.ส.พรรนิภา หรือก้อย (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี แฟนสาวของบุตรชายที่เดินกลับมาพร้อมกัน ระหว่างนั้นมีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 คนมาดักรอ โดยกลุ่มแรกได้เข้ามาชกต่อยรุมทำร้ายบุตรชาย ส่วนอีกกลุ่มยืนล้อมอยู่ด้านหลัง ซึ่งจังหวะนั้นมีตำรวจสายตรวจ 2 นายขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี กลุ่มคนร้ายจึงสลายตัวหลบหนีไป ก่อนที่ตำรวจจะนำร่างอาบเลือดและสิ้นสติของบุตรชายไปส่ง รพ.บุรีรัมย์ แต่บุตรชายก็เสียชีวิตในวันที่ 24 ธ.ค.2551
นายอำนวยกล่าวต่อว่า หลังบุตรชายเสียชีวิตได้เข้าสอบถามและติดตามความคืบหน้าคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่อง แต่ทางตำรวจก็ยังไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้แม้แต่รายเดียว ทั้งที่มีผู้ร่วมกระทำความผิดมากกว่า 20 คน และตำรวจสายตรวจก็เห็นเหตุการณ์ จึงเชื่อว่าสาเหตุที่บุตรชายถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องชู้สาว เพราะมาทราบว่าแฟนเก่า น.ส.พรรนิภา เป็นลูกของผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งในพื้นที่ ตำรวจท้องที่จึงไม่กล้าที่จะจับกุม
“ลูกชายถูกคนร้ายใช้ไม้ตีเฉพราะที่บริเวณใบหน้าจนใบหน้าเละสมองได้รับการกระทบกระเทือนและติดเชื้อในกระแสเลือด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเสียเสียชีวิตประมาณ 15 วัน บุตรชายเคยถูกแฟนเก่าของ น.ส.พรรนิภา ยกพวกจะรุมทำร้ายแต่ น.ส.พรรนิภา ตะโกนให้คนช่วยไว้ได้ทัน” นายอำนวย กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว ก่อนจะเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองปราบปราม นายอำนวย บุญยัง อายุ 54 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านตะขบ 2 สมัย อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 4 ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ถวิลบุญ พงส. (สบ 2) บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีที่บุตรชาย คือ นายสามารถ บุญยัง อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนธารทองพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คนรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณงานกาชาด จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2551 ก่อนจะเสียชีวิตที่ รพ.บุรีรัมย์ โดยภายหลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีตำรวจสายตรวจอยู่ในเหตุการณ์ นอกจากนี้ พ.ต.ต.อดิชาติ มีสา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้เร่งสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการพิจารณาเพื่อยุติคดี โดยที่ไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่ทำร้ายลูกชายมาดำเนินคดีได้แม้แต่รายเดียว
นายอำนวยกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุบุตรชายได้ไปเที่ยวงานกาชาด จ.บุรีรัมย์ กับเพื่อนรวม 9 คน โดยขณะที่กำลังเดินทางกลับเมื่อมาถึงบริเวณซอยโรงแรมวงศ์ทอง อ.เมือง กลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันได้แยกตัวไปก่อน เหลือเพียงบุตรชายกับ น.ส.พรรนิภา หรือก้อย (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี แฟนสาวของบุตรชายที่เดินกลับมาพร้อมกัน ระหว่างนั้นมีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 คนมาดักรอ โดยกลุ่มแรกได้เข้ามาชกต่อยรุมทำร้ายบุตรชาย ส่วนอีกกลุ่มยืนล้อมอยู่ด้านหลัง ซึ่งจังหวะนั้นมีตำรวจสายตรวจ 2 นายขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี กลุ่มคนร้ายจึงสลายตัวหลบหนีไป ก่อนที่ตำรวจจะนำร่างอาบเลือดและสิ้นสติของบุตรชายไปส่ง รพ.บุรีรัมย์ แต่บุตรชายก็เสียชีวิตในวันที่ 24 ธ.ค.2551
นายอำนวยกล่าวต่อว่า หลังบุตรชายเสียชีวิตได้เข้าสอบถามและติดตามความคืบหน้าคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่อง แต่ทางตำรวจก็ยังไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้แม้แต่รายเดียว ทั้งที่มีผู้ร่วมกระทำความผิดมากกว่า 20 คน และตำรวจสายตรวจก็เห็นเหตุการณ์ จึงเชื่อว่าสาเหตุที่บุตรชายถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องชู้สาว เพราะมาทราบว่าแฟนเก่า น.ส.พรรนิภา เป็นลูกของผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งในพื้นที่ ตำรวจท้องที่จึงไม่กล้าที่จะจับกุม
“ลูกชายถูกคนร้ายใช้ไม้ตีเฉพราะที่บริเวณใบหน้าจนใบหน้าเละสมองได้รับการกระทบกระเทือนและติดเชื้อในกระแสเลือด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเสียเสียชีวิตประมาณ 15 วัน บุตรชายเคยถูกแฟนเก่าของ น.ส.พรรนิภา ยกพวกจะรุมทำร้ายแต่ น.ส.พรรนิภา ตะโกนให้คนช่วยไว้ได้ทัน” นายอำนวย กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว ก่อนจะเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป
