มอสโก (เอเอฟพี/รอยเตอร์)-- เวียดนามได้ซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีที่ทันสมัยและเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจากรัสเซียจำนวน 12 ลำ ราคา 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีการเซ็นสัญญากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานเรื่องนี้ในวันพุธ (10 ก.พ.)
การเซ็นสัญญาครั้งนี้ทำให้กองทัพอากาศเวียดนามมีเครื่องบินรุ่นนี้ประจำจำนวน 20 ลำ ก่อนหน้านี้ต้นปี 2552 เวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินรุ่นเดียวกันนี้จำนวนฝูงแรก 8 ลำ อินเตอร์แฟ็กซ์กล่าว
เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบซูกอย-30 MK2 รุ่นล่าสุดนี้ออกแบบมาใช้โจมตีทางภาคพื้นดิน เช่นเดียวกันกับการพันตูกับเครื่องบินของฝ่ายตรงข้ามกลางอากาศ ซึ่งว่ากันว่าเวียดนามจะใช้ป้องันการรุกรานจากจีนในทะเลจีนนั่นเอง
เครื่องบิน SU30MK2 มีกำหนดส่งมอบในปี 2554-2555 นี้ นอกจากนั้นยังมีการเซ็นสัญญาอีก 2 ฉบับเกี่ยวกับการซื้อระบบอาวุธสำหรับสงครามทางอากาศกับชิ้นส่วนอะไหล่ของเครื่องบินรบด้วย อินเตอร์แฟ็กซ์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวทางทหาร
โลกตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือ "นาโต้" เรียกเครื่องบิน SU30 ว่า "แฟลงเกอร์" (Flanker) และเติมอักษรต่างๆ เช่น A B C D ต่อท้ายตามรุ่นที่พัฒนาต่อเนื่อง
เครืองบิน SU-30 เริ่มการผลิตตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต เป็นการพัฒนาต่อเนื่องจาก SU-27 ที่ประสบความสำเร็จทางการตลาดมาก แต่ซีรีส์ SU-30 เปิดตัวตัวและนำเข้าใประจำการในกองทัพอากาศรัสเซีย หลังจากระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลาย
ซูกอยได้แตกบริษัทลูกออกเป็น 2 บริษัท คือ Komsomolsk-on-Amur Aircraft Production Association หรือ KnAAPO ซึ่งตั้งโรงงานประกอบอยู่ในแถบไซบีเรีย กับ Irkut Corporation ในแคว้นทรานส์ไบคาล (Transbykal) ในตอนกลางของประเทศ ให้ผลิตซูกอยซีรีส์ SU-30 และให้ทำการตลาดแข่งขันกันเอง
สำหรับ SU-30MK2 ผลิตโดยบริษัทแรก ทั้งนี้เป็นข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทอุตสาหกรรมอากาศยานของรัฐบาล
บริษัทแม่วางแนวคิดเอาไว้กว้างๆ ว่า SU-30MK2 อันเป็นรุ่นล่าสุด ออกแบบมาเพื่อภารกิจเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้านี้ คือ โจมตีภาคพื้นดิน "เพื่อสร้างความเป็นต่อทางอากาศ" ทำลายอากาศยานฝ่ายศัตรูด้วยขีปนาวุธนำวิถีในการต่อสู้ระยะปานกลางและการสู้แบบพันตู หรือ "ด็อกไฟต์" แต่จะแตกต่างกันออกไปตามระบบอาวุธที่ใช้และระบบป้องกันตัวที่ติดตั้งจากโรงงาน
ปัจจุบันเครื่องบินรบของซูกอยพัฒนาไปจนถึงซีรีส์ SU-35 แต่จนถึงปลายปี 2552 ที่ผ่านมา ก็ยังเป็นเพียงเครื่องบินต้นแบบอยู่
ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการปลายปีที่แล้ว มีการเซ็นสัญญาซื้อเรือดำน้ำรัสเซียจำนวน 6 ลำ และมีการหารือเกี่ยวกับการซื้อเครื่องบินรบดังกล่าว นำมาสู่การเซ็นสัญญาซื้อในที่สุด
สัปดาห์นี้หนังสือพิมพ์นิกเกอิ (Nikkei) ในญี่ปุ่นได้รายงานข่าว การตัดสินใจของรัฐบาลเวียดนามที่จะเลือกเทคโนโลยีรัสเซียสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศ .