xs
xsm
sm
md
lg

อ๋าวหย่ายซีทรู ม.ปลายอวดสวย มิโตมิโตโชโช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#3366ff>แฟชั่นใหม่วัยโจ๋ จากชุดวัฒนธรรมประจำชาติที่สวยงาม เรียบร้อย ปกปิดมิดชิด กลายเป็นชุดที่บางหวิว ยั่วยวน แฟชั่นนี้กำลังระบาดในหมู่นักเรียนมัธยมปลาย จนถึงนักศึกษาในระดับวิทยาลัย มหาวิทยาลัย และ ยังไม่มีฝ่ายใดแถลงว่า จะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร</FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ทางการเวียดนามกำลังปวดหัวกับค่านิยมนักเรียนหญิงมัธยมปลายในยุคใหม่ที่ชอบสวมใส่ชุดประจำชาติบางหวิว "ซีทรู" จนมองเห็นชั้นในหรือเนื้อหนัง นัยว่าเพื่ออวดโฉมโนมพรรณกัน ซึ่งสิ่งนี้ขัดต่อค่านิยมของครอบครัวชาวเวียดนามพื้นฐาน ที่สั่งสอนลูกหลานให้รักนวลสงวนตัว

แต่นักวิชาการกล่าวว่านี่อาจจะเป็น "ผลข้างเคียง" จากการออกกฎระเบียบบังคับให้เด็กสาวในวัยนี้ต้องสวมชุดประจำชาติไปเรียน โดยไม่มีทางเลือกอื่น ซึ่งความเห็นนี้ได้รับการตอบโต้อย่างทันควันจากทางราชการ เนื่องจากสถาบันการศึกษาหลายแห่งผ่อนผันให้นักเรียนหญิงไม่ต้องสวมชุดอ๋าวหย่ายตลอดสัปดาห์อยู่แล้ว

ตรงกันข้ามนักเรียนหญิงส่วนใหญ่กลับนิยมสวมอ๋าวหย่าย แต่เลือกแฟชั่นของพวกเธอเอง ผลออกมาจึงเป็นชุดประจำชาคติที่ตัดเย็บด้วยผ้าบางเบาจนมองเห็นส่วนสัดต่างๆ ปรุโปร่ง อย่างชัดเจน และยังไม่มีกฎระเบียบใดจะไปห้ามปรามได้ นอกจากบรรดาคุณครูจะต้องเพิ่มการอบรมสั่งสอน ให้เห็นผลดีผลเสียที่จะติดตามมา

ปัจจุบันชุดแฟชั่นอ๋าวหย่ายบางหวิว ยังแพร่ระบาดไปในหมู่นักศึกษาระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากขึ้นทุกทีๆ กลายเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก ทั้งนี้เป็นรายงานบนเว็บบล็อก “เดียมตินบ่องด่า” (Diem Tin Bong Da) เว็บข่าวกีฬาและแฟชั่นยอดนิยมแห่งหนึ่งในเวียดนาม

นักเรียนสาวหลายคนจะเตรียมอ๋าวหย่ายไว้ 2 ชุด สวมชุดที่ดูเรียบร้อยในชั้นเรียน และ เปลี่ยนเป็นชุดหวิวโปร่งบางเมื่อพ้นจากสถานศึกษา สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งขึ้น หากต้องปั่นจักรยานหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ในท่ามกลางสายฝนโปรยปราย เว็บบล็อกเดียวกันกล่าว
<bR><FONT color=#3366ff>ท่อนบนมิดชิด แต่ท่อนล่างมีลุ้น อ๋าวหย่ายยุคใหม่สร้างความปวดเศรียรให้แก่ครูบาอาจารย์ และ สังคมโดยรวม </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>ไม่มีใครทำให้ใครเดือดร้อน อ๋าวหย่ายซีทรูกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ ไปเสียแล้ว </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>แต่บางทีก็ไม่มีอะไรที่น่าดูเลย </FONT></bR>

<bR><FONT color=#3366ff>ไม่สนใจที่จะปกปิด ท้าทายสายตา ทั้งท่อนบนและท่อนล่าง </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>แต่สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งขึ้นถ้าหากน้องๆ เหลานี้ต้องปั่นจักรยานหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ในสายฝน ท่ามกลางสายตาของผู้คนรอบข้าง  </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่า เจ้าตัวรู้สึกเช่นไร เมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ เว็ตลุค-ซีทรู เปียกๆ โปร่งๆ เช่นนี้  </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพแฟ้มวันที่ 4 ส.ค.2547 น้องๆ มัธยมปลายในชุดวัฒนธรรมประจำชาติยืนจับกลุ่มที่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์ ในยามบายแก่ๆ หลังเลิกเรียน ชุดอ๋าวหย่ายที่ดูเรียบร้อยรัดกุมแบบนี้นับวันจะหาดูได้ยาก </FONT></bR>
ชุดประจำชาติที่ถูกต้องจะตัดเย็บด้วยผ้าที่เรียบหนา หรือ เป็นผ้าสีทึบปกปิดมิดชิด สตรีที่สวมใส่จะต้องสวมชั้นในที่มิดชิดรัดกุม สวมเสื้อปิดทับข้างนอก ยาวลงจรดเท้า ปิดบังทุกส่วนของร่างกายไม่ให้ปรากฏ มีเพียงเสื้อคลุมที่จัดแหวกข้างขึ้นไปจนถึงสะเอว ให้ดูเก๋ไก๋ และคล่องตัวในยามเคลื่อนไหว

แต่สิ่งนี้เริ่มเปลี่ยนไป ค่านิยมใหม่ อ๋าวหย่ายบางหวิว กับชุดชั้นในบางเฉียบเริ่มเข้าแทนที่ เมื่อสาวๆ ยุคใหม่มีค่านิยมโชว์ส่วนสัดของพวกเธอ อย่างไม่เกรงกลัวสายตาผู้พบเห็น

นางสาว น. วัย 16 ปี บอกับ "เดียมตินบ่องด่า" ว่า เธอกับเพื่อนเบื่อหน่วยอ๋าวหย่ายสีขาวที่มีตราโรงเรียนปักไว้บนหน้าอก เนื่องจากผ้าหนามาก รู้สึกหนักอึ้ง แถมยังไม่มีลวดลาย ต้องนุ่งไปเรียนทุกวัน จึงต้องหาชุดที่"โดนๆ" ของตัวเองใส่สลับกัน

นางสาว ก. วัย 19 ปีที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งบอกว่าเดี๋ยวนี้สวมกระโปรงแทนอ๋าวหย่ายแล้ว เพราะชุดยาวๆ ไม่คล่องตัว แถมยังรัดติ้ว ทำให้รู้สึกอึดอัดหน้าอก แต่ถ้าหากต้องสวมในโอกาสต่างๆ ก็จะหาอ๋าวหย่ายที่ดูเป็นแฟชั่นๆ มากขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น