xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าเขมรยัน “นช.แม้ว” ชิวๆ กระทบการค้าเล็กน้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <bR><FONT color=#3366ff>ภาพแฟ้มวันที่ 5 ธ.ค.2551 คนงานกำลังขนฟักจากฝั่งขึ้นรถบรรทุกที่ตลาดค้าขายชายแดนบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี การค้าข้ามแดนเกือบจะหยุดชะงักลงในช่วงเดือนที่เศรษฐกิจโลกกำลังพ่นพิษร้าย และ หลังจากการปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาที่ชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ 2 เดือนก่อนหน้านั้น ภาวะเศรษฐกิจโลกคือตัวบั่นทอนการค้าขายสองฝ่าย ปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ส่งผลกระทบมาก หอการค้ากัมพูชากล่าว  </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการรายวัน/พนมเปญโพสต์-- หอการค้ากัมพูชาระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าสองฝ่ายมากนัก เนื่องจากไม่มีการปิดพรมแดน แต่ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2552 ที่ผ่านมาต่างหากที่ส่งผลให้การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชากับเวียดนามและไทย สองประเทศเพื่อนบ้านลดลงอย่างถ้วนหน้า

นายหงวนเม็งเต๊ก (Nguon Meng Tech) ผู้อำนวยการใหญ่ CCC กล่าวกับหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ว่า ว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากอดีตนายกรัฐมนตรี (นักโทษชาย) ทักษิณ ชินวัตร นั้น อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของเวียดนามในกัมพูชาได้ในอนาคต

"ถ้ากัมพูชายังคงมีปัญหากับไทย เวียดนามจะมีโอกาสขึ้นอีกมากในการแย่งส่วนแบ่งการตลาดในกัมพูชา" นายเต๊กกล่าว แต่ก็ยอมรับว่าปัจจุบันความขัดแย้งนี้ ยังไม่ส่งผลต่อการค้ามากนัก เพราะด่านชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชายังคงเปิดอยู่

ตามตัวเลขของสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ประจำสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ การค้าทวิภาคีกับกัมพูชาลดลง 22.15% ในปี 2552 เหลือเพียง 1,658 ล้านดอลลาร์ จาก 2,130 ล้านดอลลาร์ในปี 2551 หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงาน

การส่งออกของกัมพูชาก็ลดลงถึง 13.84% มูลค่าเหลือเพียง 77.73 ล้านดอลลาร์ในปี 2552 จาก 90.22 ล้านดอลลาร์ ในปี 2551 ในขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าจากไทยก็ตกลงถึง 22.52% เหลือเพียง 1,580 ล้านดอลลาร์ในปี 2552 จาก 2,040 ล้านดอลลาร์ในปี 2551
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพแฟ้มวันที่ 5 ธ.ค.2551 อีกมุมหนึ่งของตลาดค้าขายชายแดนด้านบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน คนงานกำลังขนพริกที่ส่งข้ามแดนไปจาก จ.ไพลิน เพื่อเตรียมส่งต่อไปจำหน่ายในเมือง เบื้องหลังจะเห็นแผงหรือรานค้าที่ว่างเปล่า ในช่วงเดือนที่เศรษฐกิจโลกเริ่มพ่นพิษร้าย ส่งผลให้การค้าขายมีมูลค่าลดลง </FONT></bR>
ส่วนการค้ากัมพูชา-เวียดนามลดลงเฉลี่ย 18.7% โดยมูลค่าลดลงเหลือ 1,332 ล้านดอลลาร์ เมื่อปีที่แล้ว จาก 1,640 ล้านดอลลาร์ในปี 2551 สินค้าออกของสองฝ่ายลดลงทุกหมวด หอการค้ากัมพูชา อ้างตัวเลขของสถานทูตเวียดนามประจำกรุงพนมเปญ

สินค้าการเกษตรซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาตกลงไป 15.5% จาก 220 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 186 ล้านดอลลาร์ ขณะที่สินค้าส่งออกของเวียดนามคือ สิ่งทอ วัสดุก่อสร้าง สินค้าท้องถิ่น และอาหารสำเร็จรูป ก็มีปริมาณและมูลค่าลดลงกว่า 19%

มูลค่าส่งออกของเวียดนามในปี 2552 เหลือเพียง 1,146 ล้านดอลลาร์ จาก 1,420 ล้านดอลลาร์ในปี 2551

"เราตระหนักดีว่า...วิกฤติเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อปริมาณความต้องการของผู้คน" นายเต๊กกล่าว
<bR><FONT color=#3366ff>>ภาพแฟ้มวันที่ 5 ธ.ค.2551 ที่ด่านชายแดนบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตลาด 3 แผ่นดิน ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังส่งผลกระทบอย่างแรงต่อการค้าขยายระหว่างกัมพูชากับเพื่อนบ้าน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมูลค่าการค้ากับไทยและกับเวียดนาม ลดฮวบลงไม่ต่างกัน ปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับ นช.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการค้าขาย เนื่องจากพรมแดนยังคงเปิดอยู่ </FONT></bR>
นายหลีเบียนเกือง (Ly Bien Cuong) ที่ปรึกษาการพาณิชย์ประจำสถานทูตเวียดนาม อธิบายว่าผลกระทบจากวิกฤติการเงิน "ส่งผลรุนแรง" ต่อการส่งออกสินค้า ในแขนงสิ่งทอและภาคอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชา โดยทั้ง 2 ภาคส่วนนี้ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น

การส่งออกวัสดุสิ่งทอของเวียดนามตกลงไปมากกว่า 10% และ วัสดุก่อสร้างก็ตกลงไปประมาณ 6%

แต่นายเกืองแสดงความหวังว่า สถานการณ์ทางการค้าจะฟื้นตัวหลังจากระดับการเริ่มค้าดีในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเดือนเดียวมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 160 ล้านดอลลาร์

"ถ้าหากตัวเลขการค้ายังคงเป็นไปในทิศทางบวกเช่นนี้ ผมเชื่อว่าเราจะไปถึงเป้าหมายการค้าระหว่างเวียดนามและกัมพูชาที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2553 นี้" นายหลีกล่าวกับพนมเปญโพสต์.
 <bR><FONT color=#3366ff>ภาพโดยหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ - ชาวเขมรเดินผ่านหน้าห้าง Vina Mart สถานที่จำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากเวียดนามในกรุงพนมเปญ ปีที่แล้วการค้าขายกัมพูชา+เวียดนามลดลงเกือบ 20% </FONT></bR>
กำลังโหลดความคิดเห็น