เอเอฟพี - ในวันพุธ (20 ม.ค.) เวียดนามได้เริ่มดำเนินโครงการอนุรักษ์ป้อมปราการโบราณในกรุงฮานอย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีของประเทศเวียดนามในช่วงปลายปี 2553 นี้
นอกจากเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 1,000 ปีของเวียดนามแล้ว ป้อมโบราณกลางเมืองหลังนี้คาดว่าจะได้รับการรับรองจากองค์การ UNESCO ให้เป็นแหล่งมรดกโลกด้วย นางโงถิแท็งหั่ง (Ngo Thi Thanh Hang) รองประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยกล่าว
ญี่ปุ่นจะให้เงินทุนมากกว่า 1.1 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการระยะเวลา 3 ปี ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษาทางโบราณคดี การอนุรักษ์และพัฒนาความเชี่ยวชาญในบุคลากรท้องถิ่น
"การอนุรักษ์แหล่งโบราณสถานนี้ ไม่เพียงเฉพาะความคุ้มค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีค่าของตัวเองเท่านั้น แต่เนื่องจากป้อมปราการหลังนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วย" ทั้งนี้เป็นการระบุของคณะกรรมการประชาชนและองค์การยูเนสโก (UNESCO)
"ความพยายามที่จะเอาชนะความท้าทายเหล่านี้จะทำให้แหล่งโบราณสถานแห่งนี้เป็นต้นแบบที่สำคัญให้กับแหล่งโบราณสถานตามเมืองต่างๆ ทั่วทั้งเอเชีย"
กรุงฮานอยได้กลายมาเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามภายใต้การปกครองของราชวงศ์หลี (Ly) ในปี 1553 ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อของเมืองถั่งลอง หรือ "ทังลมง์" (Thang Long) ในสำเนียงท้องถิ่น ซึ่งมีความหมายว่า "มังกรผงาด" อันเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาที่จะเป็นอิสรภาพจากการอยู่ภายใต้การปกครองของจีนนานนับสหัสวรรษ
โครงสร้างอาคารที่เหลืออยู่ของป้อมปราการโบราณและโบราณวัตถุอื่นๆ ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ระหว่างการขุดพื้นที่เพื่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ในบริเวณใจกลางเมือง ทำให้โครงการก่อสร้างต้องระงับไว้
นักโบราณคดียังพบโบราณวัตถุหลายพันชิ้น มีทั้งเครื่องปั้นดินเผาลวดลายมังกรและหัวนกพญาไฟ (ฟีนิกซ์) เซรามิค ปืนใหญ่ ดาบ และเหรียญโบราณ ส่วนพื้นปราสาทโบราณที่ขุดพบฝังอยู่ใต้ดิน และโครงสร้างอาคารที่เหลืออยู่ของเมืองต้องห้ามนั้นมีอายุย้อนหลังกลับไปนานนับ 1,300 ปี ในสมัยราชวังถังของจีน
ในปี 2552 เวียดนามกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งโบราณสถานและแหล่งประวัติศาสตร์ของชาติมาและวางแผนดำเนินการฟื้นฟูบูรณะซากป้อมโบราณที่ยังเหลืออยู่.