รอยเตอร์ - กลุ่มบริษัทน้ำมันและก๊าซ ปิโตรเวียดนาม คาดว่าราคาส่งออกน้ำมันดิบในปี 2553 นี้จะขยับขึ้นเฉลี่ยที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2552 และ จะจำหน่ายน้ำมันดิบให้แก่โรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกของประเทศในปริมาณมากขึ้นอีกด้วย
ปิโตรเวียดนามตั้งเป้ารายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบในปี 2553 รวม 7,040 ล้านดอลลาร์ จากเป้าเดิมของปี 2552 ที่ตั้งไว้ 7,820 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เป็นตัวเลขที่รายงานอยู่บนเว็บไซต์ของปิโตรเวียดนามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานฉบับดังกล่าวยังได้ระบุถึงตัวเลขเป้าหมายการผลิตของปี 2553 ด้วย โดยคาดการณ์ปริมาณผลผลิตน้ำมันดิบของบริษัทจะได้เพียงประมาณ 15 ล้านตัน หรือ 301,000 บาร์เรลต่อวัน และ ก๊าซธรรมชาติ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น โดยเป้าหมายที่ลดต่ำลงนี้เปิดเผยครั้งแรกในเดือนพ.ย. 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งนายดี่งลาทาง (Dinh La Thang) ประธานปิโตรเวียดนาม กล่าวโทษแหล่งน้ำมันของบริษัทที่ให้ผลผลิตต่ำลง
ในปี 2552 ปิโตรเวียดนามผลิตน้ำมันดิบได้ 16.3 ล้านต้น เพิ่มขึ้น 9% จากปี 2551 ในขณะที่ผลผลิตก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 7% จากปี 2551 ที่ 8.01 ล้านลูกบาศก์เมตร
กลุ่มบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ส่งออกน้ำมันดิบทั้งหมด 14.04 ล้านตัน และ จำหน่ายอีก 2.25 ล้านตันให้กับโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต (Dung Quat) โรงกลั่นแห่งแรกของประเทศใน จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) สำหรับปีนี้จะสงน้ำมันดิบให้เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านตัน
น้ำมันดิบเป็นแหล่งนำเข้าเงินตราต่างประเทศอันดับ 2 ของประเทศรองจากอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออกและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ
ปิโตรเวียดนามเป็นเจ้าของโรงกลั่นแห่งแรกของประเทศ สัปดาห์ที่แล้วนายทางได้วิจารณ์โรงกลบั่นแห่งแรกของประเทศว่า มีขนาดเล็กเกินไปไม่คุ้มกับการลงทุน โรงกลั่นที่จะสร้างใหม่ทั้งหมดจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น
ในปี 2553 ปิโตรเวียดนามจะมองหาโอกาสการขยายการลงทุนสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซในต่างประเทศ ทั้งในรัสเซีย แอฟริกา ประเทศอดีตสหภาพโซเวียต และ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย.