ASTVผู้จัดการรายวัน-- ประธานบริษัทกลุ่มบริษัทน้ำมันแห่งชาติเวียดนามหรือ “ปิโตรเวียดนาม” (PetroVietnam) กล่าวว่าการสร้างโรงกลั่นขนาดเล็กเช่นโรงกลั่นแรกของประเทศ เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้ม และโรงกลั่นน้ำมันแห่งต่อไปจะเป็นขนาดใหญ่ทั้งหมด
เวียดนามได้บทเรียนจากโรงกลั่นน้ำมันยวุ๋งกว๊าต (Dung Quat) ที่มีกำลังการผลิตเพียง 6.5 ล้านตัน ต่อปี หรือ 148,000 บาเรลล์ต่อวัน โรงกลั่นแห่งใหม่ในอนาคตจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า สำนักข่าวเวียดนามเน็ตรายงานเมื่อวันพุธ (6 ม.ค.) อ้างคำกล่าวของนายดี่งลาถ่าง (Dinh La Thang) ประธานปิโตรเวียดนาม
"นี่คือบทเรียนจากยวุ๋งกว๊าต" นายถ่างกล่าว พร้อมทั้งระบุว่า โรงกลั่นที่วางแผนไว้อีก 2 แห่งจะสามารถรองรับน้ำมันดิบได้ 10 ล้านตันต่อปี
จากข้อสรุปดังกล่าว จะทำให้อีก 2 แห่ง คือ โรงกลั่นหงีเซิน (Nghi Son) ในจ.แท็งค์ฮว๊า (Thanh Hoa) กับโรงกลั่นลองม์เซิน (Long Son) ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tao) จะมีกำลังผลิตแห่งละ 10 ล้านตันต่อปี
โครงการโรงกลั่นหงีเซินหรือโรงกลั่นแห่งที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จากการร่วมทุนระหว่างกลุ่มคูเวตออยล์กับกลุ่มบริษัทญี่ปุ่น โดยปิโตรเวียดนามถือหุ้นส่วนน้อย ส่วนโครงการลองม์เซิน อยู่ระหว่างเจราจาต่อรองกับผู้รับเหมาก่อสร้างต่างชาติ ทั้งมาเลเซีย และเกาหลีใต้ ในเงื่อนไขของการร่วมทุน คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในปีนี้
ปิโตรเวียดนามยังได้ว่าจ้างผู้รับเหมา ทำการออกแบบขยายขนาดการผลิตของโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต ใน จ.หวาหงาย (Quang Nghai) ให้เป็น 10 ล้านตันต่อปี โดยในปี 2553 นี้ บริษัทปิโตรเวียดนามตั้งเป้าที่จะกลั่นน้ำมันดิบทั้งหมด 15 ล้านตัน และผลิตก๊าซอีก 8 ล้านตัน สำนักข่าวเดียวกันกล่าว.