ASTVผู้จัดการรายวัน-- รัฐบาลกัมพูชาออกคำแถลงวันพุธ (23 ธ.ค.) ปฏิเสธกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยให้สัมภาษณ์ว่า ทางการกัมพูชาอาจจะดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเลขานุการเอกสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ กับวิศวกรไทยที่ถูกจับ และ ได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อต้นเดือนนี้
คำแถลงของรัฐบาลกัมพูชาอ้างถึงการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีไทย ทาง ASTV ที่ออกอากาศวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา และตีพิมพ์เผยแพร่ทาง ASTVแมเนเจอร์ออนไลน์ ซึ่งระบุว่า "ถ้าหากกัมพูชาดักฟังการสนทนาระหว่าง นายคำรบ (ปาลวัฒน์วิไชย) กับนายศิวรักษ์ (ชุติพงษ์) กัมพูชาก็ควรจะแสดงความชัดเจนต่อกรณีนี้ เพราะว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศในสายตาของนานาชาติ"
"กัมพูชาไม่ได้มีกิจวิสัยในการกระทำอันขัดต่อกฎหมาย และการดักฟังโทรศัพท์ก็ไม่เคยมีอยู่ในวิถีปฏิบัติของกัมพูชาและไม่เคยได้กระทำการอันใด ที่จะขัดต่อหลักการต่างๆ ของตน" หนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล อ้างเอกสารคำแถลงที่ออกในนามรัฐบาลวันเดียวกัน ซึ่งระบุด้วยว่าการกล่าวของ นรม.ไทยนั้น ไม่มีข้อเท็จจริงแต่อย่างไร
"ดังนั้นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ระบุในการให้สัมภาษณ์จึงเป็นเพียงการเพ้อฝันและประมาณการส่วนตัว เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนทางการเมืองและเพื่อปิดบังจุดอ่อน ในการหลบเลี่ยงความรับผิดชอบของเขาเท่านั้น"
คำแถลงยังกล่าวหาอีกว่า คำพูดของนายอภิสิทธิ์เป็นเจตนาที่จะสร้างความเข้าใจผิดต่อประชามติทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่เคารพกฎหมาย "ซึ่งในทางตรงข้ามกับแนวทางของกัมพูชาที่ส่งเสริมการปกครองด้วยกฎหมาย"
"ผู้นำของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้รับบันทึกการใช้โทรศัพท์ที่จัดส่งให้โดยบริษัทโทรศัพท์ของเอกชน เกี่ยวกับข้อมูลการสนทนาระหว่างศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรของบริษัทแคทส์ กับ คำรบ ปาลวัฒน์วิชัย เลขานุการเอกสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญหลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา"
"นี่เป็นการปฏิบัติปกติของบริษัทเอกชน (ผู้ให้บริการ) ซึ่งจำเป็นต้องบันทึกข้อมูลเพื่อคิดค่าใช้บริการในบิลเท่านั้น" คำแถลงระบุ
นายศิวรักษ์ ซึงทำงานกับบริษัทควบคุมการบินในเครือของบริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) ถูกจับกุมในเดือน พ.ค.และ ถูกดำเนินคดีในเดือนถัดมา ฐานรั่วข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ให้แก่เลขานุการเอกสถานทูตไทย ต่อมาถูกศาลกรุงพนมเปญตัดสินลงโทษจำคุก 7 ปี ถูกปรับอีก 10 ล้านเรียล ฐานกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
แต่เพียงข้ามวันต่อมานายศิวรักษ์ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนเป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ฝ่ายกัมพูชาได้ยกคุณงามความดีทั้งหมดให้แก่ นช.ทักษิณ กับพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนนักโทษที่หลบหนีคดีเร่ร่อนไปทั่วโลกในขณะนี้
นช.ทักษิณเดินทางเข้ากัมพูชาอีกครั้งหนึ่งเพื่อไปร่วมการส่งมอบตัวนายศิวรักษ์ หลังได้รับอภัยโทษ โดยผู้นำกัมพูชาได้เปิดพัก “วิมานเอกราช” ซึ่งเป็นบ้านพักรับรองของรัฐบาลจัดงานใหญ่โต โดยมีบรรดา สส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปร่วมงานด้วยจำนวนหนึ่ง
"รัฐบาลกัมพูชายึดมั่นต่อพันธกรณีในการเสริมสร้างและธำรงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งการปกครองด้วยกฎหมาย เช่นเดียวกันกับการปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีแห่งมนุษยชน โดยให้หลักประกันต่อความเป็นส่วนตัวของบุคคลในการสนทนาทางโทรศัพท์" มีส่วนในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้เงินทุนนับพันๆ ล้านดอลลาร์ทะลักเข้าลงทุนในราชอาณาจักรกัมพูชา คำแถลงระบุ
"นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่า ไม่มีเหตุผลใดอย่างแน่นอน ที่กัมพูชาจะดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างศิวรักษ์กับคำรบ" คำแถลงระบุ
การออกคำแถลงดังกล่าวนี้มีขึ้นเพียงชั่วเวลาข้ามวันหลังจากนักโทษชายทักษิณ ได้เดินทางออกจากกัมพูชาในวันจันทร์ (21 ธ.ค.) ที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีการเปิดเผยจุดหมายปลายทาง
นักโทษชายเดินทางเข้ากัมพูชาเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 13 ธ.ค. เพื่อทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่ามาได้ประชุมหารือกับบรรดารัฐมนตรีอาวุโสของประเทศนี้ เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ.
