เวียดนามเน็ต/เตื่อยแจ๋ -- วันนี้กรุงฮานอยเปลี่ยนไปมาก ท้องถนนเต็มไปด้วยแผ่นป้ายโฆษณาสารพัด ทั้งของรัฐและเอกชน ในขณะที่ท้องถนนเต็มไปด้วยยวดยานและเสียงแต่แผนลั่น และสิ่งใหม่อีกอย่างหน่ึงในนั้นก็คือ บรรดาพวกรถโฆษณาติดลำโพงที่แผดเสียงลั่นจนแสบแก้วหู
เวลา 8.00 น. กลางสี่แยกในกรุงฮานอย ในขณะที่บรรดาผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะไม่สามารถสูดอากาศหายใจได้เพราะควันจากท่อไอเสียนับพันและเสียงแตรที่ดังแสบแก้วหู ทันใดก็มีเสียงกระหึ่มดังขึ้นท่ามกลางรถที่จอดติดอยู่ตรงสี่แยกนั้นโดยมีต้นเสียงมาจากลำโพงที่ติดอยู่บนหลังคารถแท็กซี่
เสียงจากเครื่องขยายเสียงเหล่านี้กลบเสียงจราจรบนท้องถนน ด้วยคำโฆษณาแนะนำการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องวัยรุ่นที่ยังไม่มีชื่อเสียง โดยที่นักร้องเหล่านี้ถูกโปรโมทราวกับพวกเขาเป็นดาราดังในโลกของวงการดนตรีของเวียดนามเลยทีเดียว
ชาวเวียดนามที่มีบ้านอยู่ติดถนน ในกรุงฮานอย ต้องทนทรมานกับเสียงโฆษณาการแสดงคอนเสิร์ตที่แผดเสียงออกมจากลำโพงบนรถแท็กซี่ที่ขับตระเวนไปตามถนนเส้นต่างๆ วันละหลายๆ รอบ
ชาวบ้านในพื้นที่ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การโฆษณาในลักษณะนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น และสร้างความรำคาญยิ่งกว่าเสียงแตรรถเสียอีก
ป้ายโฆษณาการแสดงคอนเสิร์ตถูกแขวนไปทั่วทุกที่ ตามความยาว 1 กม.ของถนน โตนเติ๊ตตุ่ง (Ton That Tung) ตกแต่งประดับประดาด้วยป้ายโฆษณาหลายร้อยป้าย นอกจากป้ายโฆษณาการแสดงคอนเสิร์ตเหล่านี้ยังมี ป้ายโฆษณา "ระดับหมู่บ้าน" ติดอยู่เต็มไปหมดเช่นกัน ทั้งป้ายโฆษณาสินค้าโปรโมชั่นของร้านซูเปอร์มาเก็ต ศูนย์จำหน่ายสินค้าอิเล็กโทรนิค หรือศูนย์สอนภาษาอังกฤษ เป็นต้น
ป้ายโฆษณาที่ถูกแขวนติดตามที่ต่างๆ คงจะดูหรูหราหากผู้จัดงานเอกชนเหล่านี้ออกแบบให้ดูดี แต่ที่ติดอยู่นั้นกลับดูคล้ายกันไปหมดด้วยการใช้ตัวอักษรสีเขียวหรือสีแดงบนผืนผ้าหรือกระดาษสีเหลือง
แต่ผู้จัดงานเอกชนดูเหมือนว่าจะเก่งกว่าผู้จัดงานของรัฐ เมื่อพวกเขาไม่จำเป็นต้องนำป้ายไปติดใกล้กับหน่วยงานรัฐ แต่สามารถนำป้ายไปติดในพื้นที่อยู่อาศัยและตามทางแยกที่มีการสัญจรเป็นจำนวนมากได้ ป้ายหลายอันถูกแขวนไว้อย่างน่าภูมิใจถัดจากซุ้มตำรวจจราจรทั้งๆ ที่งานแสดงนั้นผ่านไปแล้วกว่า 1 เดือน ซึ่งในตอนหลังถูกคลุมด้วยป้ายโฆษณางานใหม่แทน
เจ้าหน้าที่จากคณะงานแสดงของรัฐต่างรู้สึกเสียใจกับสถานการณ์ที่ไม่ยุติธรรมเช่นนี้ นายเจื่องญวน (Truong Nhuan) รองผู้อำนวยการโรงละครเตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) กล่าวว่า "พวกเราใช้เวลาไปตั้งหลายเดือนในการจัดการแสดงละครเรื่องใหม่และเสียเวลาไปกับการขอใบอนุญาตจัดแสดงอีก เราต้องการเวลามากกว่านี้ในการยื่นเรื่องขอติดตั้งป้ายโฆษณา แล้วกรุงฮานอยก็เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มากแต่เรากลับได้รับอนุญาตให้ติดป้ายโฆษณาได้เพียงแค่ 20 ป้ายเท่านั้น"
นายเจิ่นบิ่ง (Tran Binh) ผู้อำนวยการโรงละครกลาง (Central Music Theatre) กล่าวว่า "คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้แขวนป้ายทั้ง 20 ป้ายในที่ที่คุณต้องการ อย่างผมขอแขวนป้ายในบริเวณกลางเมืองหรือไม่ก็ในพื้นที่อยู่อาศัย แต่กลับได้รับอนุญาตให้ติดป้ายได้แค่ 10 แห่งในบริเวณกลางเมือง และอีก 10 แห่งที่ชานเมือง"
นายบี่งยังคงบ่นต่อว่า "ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขาไม่อนุญาตให้เราแขวนป้ายตั้งแต่เนิ่นๆ แต่กลับให้แขวนป้ายโฆษณาในช่วงไม่กี่วันก่อนเริ่มการแสดง ไม่อย่างนั้นเราจะถูกปรับ ทั้งๆ ที่เพลงซึ่งใช้ในการแสดงก็ถูกกฎหมาย นักร้องก็มีชื่อเสียง แต่การแสดงของเราต้องรอการตรวจสอบและรอรับการอนุญาตเสียก่อน"
เนื่องจากเหตุผลดังกล่าวทำให้คณะนักแสดงพื้นเมืองโบร่ำโบราณในกรุงฮานอยยิ่งแย่ขึ้นไปอีก เมื่อพวกเขาได้รับอนุญาตให้ติดป้ายโฆษณาได้เพียงที่เดียว คือหน้าโรงละครของพวกเขาเอง
ผู้จัดการแสดงเอกชนที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อบอกกับผู้สื่อข่าวของเตื่อยแจ๋ว่า ผู้ตรวจการณ์ด้านวัฒนธรรมรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้จัดการแสดงเอกชนเหล่านี้ ถ้าหากเขาไม่รู้ เขาก็สามารถรู้ได้เองอยู่ดีจากเสียงประกาศที่ผ่านลำโพงบนรถแท็กซี่ที่วิ่งอยู่ตามถนน ซึ่งถ้าพวกเขาจะปรับเงินก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ผู้จัดการแสดงเอกชนนายหนึ่งกล่าวทิ้งท้าย.