ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ถึงแม้ว่าทางการคอมมิวนิสต์จะไม่เอาเรื่องเอาราวกับผู้ฝักใฝ่ในความงามแห่งกามศิลป์ ยังไม่เคยจับยึดหรือทำลายผลงานของ “ศิลปิน” เหล่านี้ก็ตาม แต่ “ศิลปินนู้ด” จำนวนไม่น้อย ยังกล้าๆ กลัวๆ ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย พอที่จะนำเอาผลงานอลังการของตนออกสู่สายตานำของแฟนๆ อย่างเปิดเผยบนท้องถนน แต่นำผลงานชิ้นเอกลงใต้ดิน เปิดแสดงผ่านเว็บบล็อก
ถ้าหากไม่คุ้นเคยมาก่อน หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า ศิลปะแห่งเรือนร่างสตรีผ่านคมเลนส์ของช่างภาพนู้ดเวียดนามนั้น ไม่เพียงแต่แฝงด้วยความอลังการ หากยังร้อนและแรงมาก งานของศิลปินนู๊ดมือใหม่บางคนออกมาร้อนรน แสดงความพลุ่งพล่านแห่งอารมณ์ที่อยากจะตะกายหนีให้พ้นจากขีดจำกัด
นักวิจารณ์ภาพศิลป์แห่งเรือนร่างสตรีผู้หนึ่งเขียนเอาไว้ว่า การแสดงออกทางอารมณ์เหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่า ศิลปินจำนวนมากกำลังพยายามเข้าใกล้ “จุดเชื่อมต่ออันเปราะบาง” ระหว่างศิลปะกับอนาจารให้มากที่สุด
แต่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ วัฒนธรรม “นู้ดใต้ดิน” เวียดนาม ได้สะท้อนให้เห็นความปรารถนาอันแรงกล้าของเหล่าศิลปินแขนงนี้ พวกเขาลงทุนลงแรง ว่าจ้างนางแบบ จัดเตรียมสถานที่ถ่ายทำ จัดอุปกรณ์แสงและองค์ประกอบต่างๆ โดยไม่รับค่าตอบแทนจากสังคม ศิลปินนู้ดใต้ดินจำนวนไม่น้อย นำภาพมาสเตอร์พีซของพวกเขาออกแสดงในโลกไซเบอร์ ท้าทายให้ผู้แสวงหาได้ออกท่องหา
ยังมีช่างภาพนู้ดฝีมือดีจำนวนไม่น้อย ยังไม่ได้เกิดในวงการเหมือนกับถายเฟียน (Thai Phien) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม หลังจากมีสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งกล้าหาญ นำภาพศิลป์ของเขารวมเล่ม พิมพ์ออกวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยตามร้านหนังสือชั้นนำของประเทศ เมื่อปี 2550
หนังสือรวมภาพศิลปะนู้ด “สีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ” (Colours of Spring) ประกอบด้วยภาพนางแบบที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก 4-5 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีสภาพเปลือยล่อนจ้อน บันทึกผ่านคมเลนส์ของถายเฟียน ขายดีทั้งในกรุงฮานอยและในนครโฮจิมินห์ จนต้องพิมพ์ซ้ำมาหลายครั้ง
นี่คืออัลบั้มรวมภาพเปลือยของหญิงสาวที่ถูกกฎหมายเล่มแรกของประเทศ
เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ที่กับดูและเรื่องนี้ได้กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างศิลปะกับอนาจารนั้นอยู่ที่มุมมองของแต่คน และสองสิ่งนี้อยู่ห่างกันแค่เส้นยาแดง เพราะฉะนั้นจึงยินยอมปล่อยให้สาธารณชนตัดสินผลงานของถายเฟียน ซึ่งก็ปรากฏว่า ถึงวันนี้มีการพิมพ์อัลบั้ม Spring Time ออกมาเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
ภาพนู้ดของถายเฟียน (Thai Phien) ผู้ประกาศตัวเองเป็นทาสแห่งคามงามบนเรือนร่างของสตรี ได้กลายเป็นตำนานใหม่ ทำให้ศิลปินนู้ดในประเทศนี้เชื่อว่า ศิลปะภาพเปลือยไม่ใช่สิ่งต้องห้ามในสังคม แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีสำนักพิมพ์ใด กล้าพอที่จะนำผลงานออกสู่สายตาของสาธารณชนในวงกว้างอีก
แต่ในขณะเดียวกัน “นู้ดใต้ดิน” ได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ ผลงานของศิลปืนใต้ดินเหล่านั้นได้มีโอกาสผ่านสายของผู้ชมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเว็บบล็อกต่างๆ ได้นำภาพศิลป์เหล่านี้ ไปแปะเอาไว้บนบล็อกของตัวเอง และ แพร่ออกไปเป็นเป็นทอดๆ จากแห่งหนึ่งไปยังอีกหลายๆ แห่ง
ด้านหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ช่วงปีต่อมาภาพนู้ดในเวียดนาม มีความล่อแหลมที่จะขัดต่อศีลธรรมและค่านิยมทางสังคมประเทศนี้มากยิ่งขึ้น ดูราวกับว่าศิลปะนู้ดฮานอยกำลังพยายามก้าวฝ่าขีดจำกัดทางศีลธรรมออกไปอีกก้าวหนึ่ง เพื่อทดสอบความคงทนแห่งผลงานของพวกเขา ..ลงใต้ดินจึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้ผล
“เราอยากให้คุณๆ ได้ดูกัน และ ช่วยตัดสิน แต่...อย่าเอ็ดไป” ฝั่มหว่ายมาย (Pham Hoai Mai) ศิลปินนู้ดคนหนึ่งแนะนำภาพของเขาบนเว็บบล็อก