รอยเตอร์/อินไควเรอร์-- ประเทศผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกอย่างฟิลิปปินส์อาจจะต้องนำเข้าข้าวเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 หลังจากที่พายุ 2 ลูก ทั้งเกดสะหนา (Ketsana) และป้าหม่า (Parma) สร้างความเสียหายให้กับนาข้าวของประเทศอย่างหนัก
แต่การเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ มีขึ้นหลังจากที่ในเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายข้าวรายหลักให้แก่ฟิลิปปินส์ นาข้าวนับแสนไร่ถูกไต้ฝุ่นเกดสะหนาพัดทำลายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน
"ผมไม่เป็นห่วงเรื่องขาดแคลนข้าวในปี 2552 นี้หรอก เพราะเรามีสำรองไว้มากพอ แต่ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2553 ต่างหากที่น่าเป็นห่วง ถ้าจำเป็นขึ้นมา เราคงต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ" นายอาเธอร์ แย็ป (Arthur Yap) รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์วิทยุในท้องถิ่น
สถานการณ์คล้ายกันนี้เมื่อปลายปี 2550 ได้ทำให้เกิดยุคข้าวยากหมากแพงขึ้นในต้นปี 2551
นายแย็ปไม่ได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่จะนำเข้าข้าวหรือประเทศใดที่ฟิลิปปินส์จะสั่งซื้อข้าว แต่ที่ผ่านมารัฐบาลฟิลิปปินส์มักจะทำสัญญานำเข้าข้าวสำหรับปีถัดไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเสมอ
นางกลอเรีย มาคาปากัล อาโรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ สามารถนำเข้าสินค้าประเภทอาหารได้หากมีความจำเป็น นายเซอร์เฮ เรมอนเด (Cerge Remonde) โฆษกประธานาธิบดีให้สัมภาษณ์วิทยุแห่งเดียวกัน
นอกเหนือจากการนำเข้าข้าวแล้ว ยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่ต้องนำเข้า เช่นไก่และหมู เพื่อรองรับกับความต้องการในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงเวียดนามและไทยเป็นประเทศผู้ขายข้าวรายใหญ่ให้ฟิลิปปินส์มาโดยตลอด แต่ปี 2551 เป็นต้นมาฟิลิปปินส์ได้หันไปซื้อข้าวที่ราคาถูกว่าจากเวียดนามเป็นหลัก ปีนี้เซ็นซื้อไปแล้วถึง 1.775 ล้านตันมากเป็นประวัติการณ์
เวียดนามระบุว่าในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ได้เซ็นสัญญาขายข้าวแก่ฟิลิปปินส์อีก 400,000 ตัน
กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวว่า ไต้ฝุ่นเกดสะหนาและป้าหม่าได้ทำลายข้าวไปกว่า 3 เเสนตันข้าว มีมูลค่าเกือบ 6.5 พันล้านเปโซ หรือราว 138 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปริมาณข้าวที่ประชากรบริโภคได้กว่า 5 วัน รัฐบาลมีข้าวสำรองเพื่อบริโภค 30-35 วันเท่านั้น ขณะนี้กำลังรอสำรวจความเสียหายทั้งหมด
ไตรมาสสุดท้ายของปี ระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค. เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรครั้งใหญ่ของประเทศ รัฐบาลคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงนี้น่าจะมีปริมาณถึง 6.48 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าจำนวนที่เก็บเกี่ยวได้ในปี 2551 ถึง 4% แต่ไต้ฝุ่นสองลูกทำลายความหวังลง.