ASTVผู้จัดการรายวัน -- จีนเตรียมสร้างและปล่อยดาวเทียมสื่อสารให้กับลาว ตามข้อตกลงที่ได้ลงนามกันไปเมื่อวันศุกร์ (25 ก.ย.) ซึ่งทำให้ลาวกลายเป็นลูกค้ารายแรกของอุตสาหกรรมอวกาศจีนในย่านเอเชีย หลังจากจรวดลองมาร์ช (Long March) เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในการส่งดาวเทียมให้แก่ลูกค้าในแอฟริกากับละตินอเมริกา
สองฝ่ายได้เตรียมการเรื่องนี้มาเป็นเวลา 1 ปี เตรียมการทั้งในด้านหลักการ สำรวจศึกษาโครงการ และ การจัดหาแหล่งเงินกู้เอกสาร สื่อของทางการลาวกล่าว
ตามรายงานของศูนย์เทคโนโลยีควบคุมการปล่อยยานของจีน (CALT) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการบินจีน ดาวเทียมรุ่นต่งฟางหง (Dongfang Hong) หรือ "บูรพาสีแดง" โดยจะใช้ชื่อในเชิงพาณิชย์เป็น Laos-1 จะถูกนำขึ้นสู่อวกาศเพื่อปล่อยเข้าสู่วงโคจร โดยจรวดลองมาร์ช (Long March) ที่ตั้งชื่อตามเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ การเดินทัพทางไกลของประธานเหมาเจ๋อตง
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดวันที่แน่ชัดว่า ดาวเทียม Laos-1 นั้น จะสร้างเสร็จสิ้นเมื่อใด และมีกำหนดปล่อยสู่วงโคจรเมื่อใด และ ด้วยราคาค่างวดอย่างไร
นอกจากนั้นศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการบินของจีนจะเป็นผู้สร้างศูนย์ติดตามดาวเทียมภาคพื้นดิน และสถานีกระจายสัญญาณดาวเทียมภาคพื้นดินให้กับลาวด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวซินหัว
ข้อตกลงในการสร้างและปล่อยดาวเทียมให้กับลาวในครั้งนี้ นับเป็นข้อตกลงครั้งแรกระหว่างจีนและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนหน้านี้จีนได้ลงนามในข้อตกลงกับไนจีเรียและเวเนซูเอลาในการสร้างและปล่อยดาวเทียมในปี 2550 และ 2551และนับตั้งแต่ปี 2530 จีน ได้ทำการปล่อยดาวเทียมเพื่อการพาณิชย์ด้วยจรวดลองมาร์ชแล้วถึง 30 ดวง สำนักข่าวทางการจีนกล่าว
หนังสือพิมพ์ "ประชาชน" ของศูนย์กลางพรรคประชาชาชนปฏิวัติลาวรายงานในขณะเดียวกันว่า นี่กำลังจะเป็นดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของประเทศ ภายใต้สัญญาความร่วมมือด้ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่าง สปป.ลาวกับจีนที่ลงนามกันในเดือน สค.2551 โดยบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการบินและอวกาศแห่งชาติจีน (China Aerospace Science and Technology) หรือ CASC ได้มอบหมายให้ CALT รับดำเนินการ
หนึ่งปีที่ผ่านมาสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำร่างสัญญาโครงการ จัดทำการสำรวจศึกษาและทำบทวิพากษ์ด้านเศรษฐกิจของโครงการ รวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน และอื่นๆ ซึ่งนำมาสู่การเซ็น "บทบันทึกความเข้าใจ" เกี่ยวกับการดำเนินการสร้างและความร่วมมือในธุรกิจดาวเทียมและระบบวิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคมในนครเวียงจันทน์ เมื่อวันศุกร์ หนังสือพิมพ์รายวันของพรรคฯ กล่าว
ผู้ลงนามฝ่ายลาวคือ ศ.ดร.บุนเตียม พิดสะไหม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าองค์การวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ฝ่ายจีนคือ นายเหลียงเสี่ยวหง (Liang Xiohong) ประธานสภาบริการของ CALT โดย พล.ท.ดวงใจ พิจิต รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม รวมทั้งเอกอัครราชทูตจีนประจำลาว เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ตามรายงานของสื่อทางการก่อนหน้านี้ ลาวยังไม่เคยมีดาวเทียมสื่อสารของตนเอง ปัจจุบันเช่าช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคมกับดาวเทียม VinaSat ของเวียดนาม
สัปดาห์กลางเดือน ก.ย.นี้ ได้มีการเปิดใช้อาคารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อย่างเป็นทางการในเมืองหลวงของลาว โทรทัศน์ช่องนี้ รวมทั้งอาคารสถานีและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ล้วนได้รับความช่วยเหลือจากจีน.