เวียดนามเอ็กซ์เพรส-- สโมสรหว่างแอง-ซยาลาย (Hoang Anh-Gia Lai) กำลังบ่มเพาะนักฟุตบอลรุ่นจิ๋ว ด้วยความร่วมมือช่วยเหลือจากสโมรอาร์เซนัลจากอังกฤษ ปัจจุบันมีเยาวชนที่มีแวว กำลังฝึกฝนอยู่ที่สถาบันแห่งนี้ รวม 2 รุ่นด้วยกัน ด้วยความหวังว่าวันหนึ่งเด็กๆ เหล่านี้ จะเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลระดับชาติ และอีกจำนวนหนึ่งออกไปค้าแข้งในระดับโลก
สถาบันฟุตบอลหว่างแอง-ซยาลาย อาร์เซนัล เจเอ็มบี (Hoang Anh Gia Lai Arsenal JMB Football Institute) ก่อตั้งขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว บนเนื้อที่ 5 เฮกตาร์ (กว่า 30 ไร่) ในเขตชานเมืองเปลกู (Pleiku) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มทุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ
เริ่มก่อสร้างในเดือน มี.ค.2550 เปิดใช้งานในเดือน ต.ค.ปีเดียวกัน ปัจจุบันสถาบันแห่งนี้รับเยาวชนมาแล้ว 2 รุ่น โดยตั้งมาตรฐานเอาไว้สูง ในปี 2550 คัดเอาไว้จำนวน 16 คนจากผู้สมัครทั้งหมด 7,000 คน ปีนี้มีผู้สมัคร 10,000 คนจาก 21 จังหวัดกับนคร สถาบันฯ คัดเอาไว้เพียง 10 คนเท่านั้น
ผู้เข้ารับการฝึกมีอายุระหว่าง 12-14 ปี ทุกเช้าจะมีรถบัสของสโมสรนำพวกเขาไปส่งยังโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมือง รถจะรับกลับอีกครั้งหนึ่งเวลา 11 น.เพื่อพักรับประทานอาหารเที่ยงและพักผ่อน ก่อนจะกลับไปส่งโรงเรียนและรับกลับเมื่อเลิกเรียน เพื่อเริ่มการฝึกซ้อมประจำวัน เด็กๆ นักฟุตบอลระดับโลกในอนาคตที่สถาบันแห่งนี้จะมีวันหยุดเพียง 1 วันคือ วันอาทิตย์
ผู้อำนวยการใหญ่ของสถาบันฯ จากสโมรสรอาร์เซนัล จะเดินทางเข้าเวียดนามเป็นระยะๆ เพื่อติดตามดูควมคืบหน้าของงาน.
กิจการของกลุ่มหว่างแอง-ยาลาย (HAGL) มีตั้งแต่การลงทุนก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์หรู รวมทั้งอะพาร์ทเมนต์ที่พักในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ กับโรงแรมรีสอร์ตนับสิบๆ แห่งทั่วเวียดนาม ยางพารานับแสนๆ ไร่ในภาคใต้ของลาวที่อยู่ติดกัน
กลุ่ม HAGL ยังเป็นผู้สร้างหมู่บ้านนักกีฬาช่วยเหลือรัฐบาลลาว เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมครั้งที่ 25 ที่จะจัดขึ้นในนครเวียงจันทน์ เดือน ธ.ค.ศกนี้ด้วย หลังแข่งขันหมู่บ้านนักกีฬาที่โอ่อ่าทันสมัยและสะดวกสบาย ที่ตั้งอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยแห่งชาติก็จะกลายเป็นหอพักให้นักศึกษาได้ใช้ประโยชน์ต่อไป
กลุ่ม HAGL ยังลงทุนในกิจการเหมืองแร่ และสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าทั้งในลาวและในเวียดนามด้วย
เยาวชนที่เข้าฝึกอบรมที่สถาบัน จะพักอยู่ภายในบ้านพักที่สะดวกสบายและทันสมัย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น มีพนักงานของสถาบันกำกับดูแลอำนวยความสะดวก มีครูฝึกที่ว่าจ้างจากต่างประเทศ
สถาบันฯ จะมีรายได้ก็ต่อเมื่อเยาวชนเหล่านี้เติบใหญ่ขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่มีความสามารถ ประสบความสำเร็จ เก่งกาจจนสามารถก้าวสู่ระดับชาติ หรือ ไปเล่นในต่างประเทศในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งเป็นการ "สร้างคึน" สำหรับอนาคตที่ยาวไกลมาก
ถ้าหากประสบความสำเร็จในอนาคต ครอบครัวของทุกคนจะได้รับส่วนแบ่ง 10% เงินรายได้จากการ "ซื้อตัว" นักฟุตบอลเหล่านี้
สถาบันฯ อนุญาตให้คณะบุคคลที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมกิจการได้ ภาพทั้งหมดต่อไปนี้จากสำนักข่าว VNExpress สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนามที่มีชื่อเสียงของประเทศ.