เวียดนามช่วยเขมรตั้งสายการบินพร้อมแผนธุรกิจใหญ่โต

<br><FONT color=#cc00cc>เครื่อง ATR72-500 ซึ่งเข้าใจว่าเป็นของเวียดนามแอร์ไลน์ลำหนึ่งกำลังจะขึ้นบินโชว์ตัว อีกลำหนึ่งจอดอยู่ในพิธีที่จัดขึ้นวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งสองลำทาสีเสียใหม่แปรสภาพให้เป็น Cambodia Angkor Ailine เมื่อต้นปีนี้แบงก์ BIDV เป็นผู้จัด Syndicated Loan ให้กับสายการบินแห่งชาติเวียดนามในการชำระค่าเครื่องบินแบบนี้จำนวน 6 ลำ แบงก์รัฐแห่งนี้อยู่เบื้องหลังการจัดซื้อโบอิ้ง 787 อีก 4 ลำ รูปแบบเดียวกันนี้สามารถนำไปใช้กับการขยายฝูงบินในกัมพูชาได้ </FONT></bR>

ผู้จัดการ360องศารายสัปดาห์-- เวียดนามได้เข้าร่วมฟื้นฟูสายการบินแห่งชาติของกัมพูชาขึ้นมาใหม่ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ หลังจากสายการบินแห่งชาติพับฐานไปแปดปีที่แล้ว แต่การรุกคืบเข้าน่านฟ้ากัมพูชาครั้งนี้ ดูเหมือวาเวียดนามได้ตรียมแผนธุรกิจที่ใหญ่โตกว่าสำหรับเวลาข้างหน้าที่คาดว่าอีกไม่นาน

เวียดนามเข้ากัมพูชาครั้งนี้พร้อมธนาคารของรัฐแห่งหนึ่ง ที่เป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นกับสายการบินแห่งชาติ และ เป็นพลังการเงินสำคัญทำให้เวียดนามแอร์ไลน์สามารถขยายฝูงบินได้อย่างรวดเร็ว และ นั่นอาจจะเป็นฐานการเงินของสายการบินแห่งใหม่ในกัมพูชา

กัมพูชาไม่มีสายการบินเป็นของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2544 สายการบินแห่งชาติที่เวียดนามแอร์ไลน์ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยเกือบครึ่งหนึ่งนี้ ดูจะจุดเริ่มของธุรกิจการบินที่ใหญ่โตในอนุภูมิภาค รวมทั้งการเปิดบินตรงเชื่อม 4 ประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชาและพม่า สมาชิกใหม่ของกลุ่มอาเซียนเข้าด้วยกันตามที่ใฝ่ฝันมานาน

สายการบินเวียดนามแอร์ไลนส์ (Vietnam Airlines) ได้เข้าถือหุ้น 49% ในสายการบินแคมโบเดียอังกอร์ (Cambodia Angkor) ที่เปิดให้บริการวันที่ 27 ก.ค. กลุ่มบริษัทร่วมทุนในกัมพูชา “แคมโบเดียอังกอร์” ถือหุ้นใหญ่ที่เหลือ โดยยังไม่มีการเปิดเผยเม็ดเงินที่ลงขัน

มีการนำเครื่องบินโดยสารแบบ ATR72-500 ที่ผลิตในฝรั่งเศสติดโลโกแคมโบเดียอังกอร์ จำนวน 1 ลำ เข้าร่วมในพิธีเปิด ซึ่งจัดขึ้นที่สนามบินโปเจินตง (Pochentong) กรุงพนมเปญ โดยนายกรัฐมนตรีสมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นประธาน

“เวียดนามแอร์ไลนส์จะได้รับสิทธิร่วมเป็นเจ้าของสายการบินแห่งชาติของกัมพูชาเป็นเวลา 30 ปี” นายโสกอาน (Sok An) รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าว
 ภาพเอเอฟพีวันที่ 27 ก.ค.2552 สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฯ กับท่านผู้หญิง ทำพิธีเจิมเครื่องบินของสายการบินแห่งชาติ ครอบครัวผู้นำจะพลาดพิธีศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ไม่ได้ แม้ว่าแคมโบเดียอังกอร์แอร์ไลน์ จะออกมาเป็นสายการบินลูกครึ่งก็ตาม

<br><FONT color=#cc00cc>ภาพเอเอฟพีวันที่ 27 ก.ค.2552 สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฯ กับท่านผู้หญิง ทำพิธีเจิมเครื่องบินของสายการบินแห่งชาติ ครอบครัวผู้นำจะพลาดพิธีศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ไม่ได้ แม้ว่าแคมโบเดียอังกอร์แอร์ไลน์ จะออกมาเป็นสายการบินลูกครึ่งก็ตาม </FONT></bR>

ทุกอย่างจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันได้มีพิธีลงนามในสัญญาการร่วมทุนก่อตั้งสายการบินแห่งใหม่ ระหว่างผู้บริหารของเวียดนามแอร์ไลนส์กับกลุ่มแคมโบเดียอังกอร์ โดยสมเด็จฯ ฮุนเซน กับ นายเจืองหวีงจ่อง (Truong Vinh Trong) กรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามร่วมเป็นสักขีพยาน

การรุกคืบเข้าคุมน่านฟ้ากัมพูชาของเวียดนาม มีขึ้นหลังจากความล้มเหลวในช่วงกว่า 20 ปีมานี้ได้พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า กัมพูชายังไม่มีศักยภาพพอที่จะดำเนินธุรกิจการบินได้เอง และ การพัฒนาแบบก้าวกระโดดของเวียดนามแอร์ไลนส์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ได้เป็นแบบอย่างที่ดี

ในวันเดียวกันได้มีการเซ็นสัญญาอีกฉบับหนึ่งจัดตั้งธนาคารเพื่ออุตสาหกรรมและการลงทุนแห่งเวียดนาม หรือ BIDV (Bank for Development and Investment of Vietnam) ในกัมพูชา โดย BIDV ซึ่งเป็นแบงก์ของรัฐ ถือหุ้น 100% ในสาขาแห่งใหม่ ด้วยเงินลงทุนอีก 100 ล้านดอลลาร์

ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว BIDV เข้ากัมพูชาครั้งนี้พร้อมกับธุรกิจประกันภัยอีกด้วย ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้มีภูมิหลังที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ในปี 2549 สายการบินเวียดนามกับ BIDV และบริษัทประกันภัยบ๋าวเหวียด (Bao Viet) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้ "สว็อป" หุ้นระหว่างกัน จากนั้นได้ร่วมก่อตั้งบริษัทให้เช่าอากาศยานหรือ VALC (Vietnam Aircraft Leasing Co) ขึ้น จัดซื้อเครื่องโบอิ้ง 787 จำนวน 4 ลำ ให้สายการบินแห่งชาติเช่า
 ก่อนหน้านี้กลุ่มทุนจากอินโดนีเซียเสนอขอจัดตั้งสายการบินแห่งชาติให้เขมรแต่ขอถือหุ้นใหญ่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชายอมรับไม่ได้ และเมื่อจะต้องเลือกก็ต้องเลือกพันธมิตรที่ไว้ใจได้ นายเจืองหวีงจ่อง (Truong Vinh Trong) รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็๋นกรมการเมืองอาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เป็นตัวแทนนายกฯ เวียดนามไปร่วมพิธีเปิดสายการบินใหม่ในกรุงพนมเปญวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา

<br><FONT color=#cc00cc>ก่อนหน้านี้กลุ่มทุนจากอินโดนีเซียเสนอขอจัดตั้งสายการบินแห่งชาติให้เขมรแต่ขอถือหุ้นใหญ่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชายอมรับไม่ได้ และเมื่อจะต้องเลือกก็ต้องเลือกพันธมิตรที่ไว้ใจได้ นายเจืองหวีงจ่อง (Truong Vinh Trong) รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็๋นกรมการเมืองอาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เป็นตัวแทนนายกฯ เวียดนามไปร่วมพิธีเปิดสายการบินใหม่ในกรุงพนมเปญวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา </FONT></bR>

ในต้นปี 2550 VALC ได้จัดซื้อแอร์บัส A321 อีก 10 ลำให้เวียดนามแอร์ไลนส์เช่าอีกเช่นกัน

ในต้นปี 2552 นี้ BIDV ได้จัดหาเงินกู้ (Syndicated Loan) อีกก้อนหนึ่งให้แก่สายการบินแห่งชาติ สำหรับจ่ายค่าเครื่องบิน ATR72-500 จำนวน 6 ลำที่สั่งซื้อในปี 2550

พลังสามประสานได้ เป็นพลังหลักที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของเวียดนามแอร์ไลนส์ เพื่อขึ้นเป็นสายการบินชั้นนำอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เวียดนามแอร์ไลนส์กับพันธมิตร กำลังจะดำเนินต่อไปในกัมพูชาจึงมีความหมายยิ่งกว่าการยอมถือหุ้นส่วนข้างน้อยในสายการบินแห่งใหม่ เนื่องจากเกี่ยวพันกับผลประโยชน์มหาศาล มากมายกว่าธุรกิจการบินเล็กๆ ในประเทศนี้

ในขณะเดียวกันกลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar, Vietnam) สมาชิกใหม่ของกลุ่มอาเซียน ได้พยายามมาหลายปีที่จะเปิดการคมนาคมขนส่งทางอากาศเชื่อมตรงถึงกัน โดยไม่ต้องใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอีกต่อไป
 ภาพเอเอฟพีจากแฟ้มเหตุการณ์เครื่องบินแบบแอนโตนอฟ 24 (AN24) สายการบิน PMT Air ในกัมพูชาบินชนภูเขาทางภาคใต้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2550ผู้โดยสารกับลูกเรือทั้ง 22 คนเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนใหญในนั้นเป็นชาวเกาหลีที่เดินทางจากเสียมราฐไปยังสีหนุวิลล์ นี่เป็นเหตุการณ์เลวร้าวสุดขีดในประวัติศาสตร์การบินของประเทศนี้

<br><FONT color=#cc00cc>ภาพเอเอฟพีจากแฟ้มเหตุการณ์เครื่องบินแบบแอนโตนอฟ 24 (AN24) สายการบิน PMT Air ในกัมพูชาบินชนภูเขาทางภาคใต้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2550ผู้โดยสารกับลูกเรือทั้ง 22 คนเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนใหญในนั้นเป็นชาวเกาหลีที่เดินทางจากเสียมราฐไปยังสีหนุวิลล์ นี่เป็นเหตุการณ์เลวร้าวสุดขีดในประวัติศาสตร์การบินของประเทศนี้

กลุ่มนี้ได้บรรลุความตกลงด้านการบินตั้งแต่ปี 2546 หลังการประชุมระดับรัฐมนตรีของสี่ประเทศที่เมืองเสียมราฐ แต่ติดขัดอยู่ที่กัมพูชาไม่มีสายการบินของตนเอง การก่อตั้งแคมโบเดียอังกอร์จะทำให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไข

"สามประเทศอินโดจีน+1" ยังมีแผนพัฒนาเชื่อมต่อการท่องเที่ยวเข้าหากัน โดยใช้แหล่งมรดกโลก รวมทั้งปราสาทนครวัด เป็นแม่เหล็ก

ตามรายงานของสื่อในเวียดนาม กำลังจะมีการประชุมสัมมนาในนครโฮจิมินห์ ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.- 1 ต.ค.ศกนี้ เกี่ยวกับการเชื่อมต่อการท่องเที่ยวลาว เวียดนามและกัมพูชา ภายใต้รหัส 3CODE หรือ "3 ประเทศ 1 ปลายทาง" (3 Countries- One Destination)

ในงานนี้กำลังจะมีการแสดงนิทรรศการให้นักลงทุนได้เห็นโอกาสในธุรกิจการท่องเที่ยวอนุภูมิภาค และสายการบินแคมโบเดียอังกอร์กำลังจะช่วยเติมความใฝ่ฝันของ 3-4 ประเทศแถบนี้ให้สมบูรณ์.