สวยด้วยมีดหมอไทย..คุณยังรักเธออยู่หรือเปล่า?

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นางแบบสาว จุงถึกเกวี๋ยน (Chung Thuc Quyen) กลับจากไทยเดือน เม.ย.ปีนี้ พร้อมจมูกที่โตขึ้น ปลายมนไม่ดูเสี้ยมแหลมเหมือนเมื่อก่อน หลังจากนั้นภาพของเธอในชุดบิกินี ก็เริ่มทยอยออกสู่สายตามิตรรักแฟนเพลง

มีดีกรีเป็นนางงามระดับชาติ เป็นนางแบบอาชีพ สู้อุตส่าห์เก็บเนื้อเก็บตัวมานานหลายปี ไม่มีอะไรอื้อฉาวเป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่ชีวิตการงานมันก็ไม่ไปไหนมาไหน พักหลังนี้สาวหวานจุงถึกเกวี๋ยน (Chung Thuc Quyen) ได้เริ่มเปลี่ยนลุกของตัวเองบ้าง

จากหวานแหววเป็นเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แล้วทุกอย่างก็สมใจอยาก เธอกำลังดังระเบิด แต่คุณรู้สึกอะไรกับจมูกโตของเธอหรือเปล่า..

ภาพของสาวหวาน Miss Vietnam Tourism Queen International 2008 สลัดชุดอ๋าวหญ่าย หันไปนุ่งนิดๆ ห่มน้อยๆ กำลังเป็นที่ฮือฮา เช่นเดียวกับวาทะที่ว่า “หนูไปทำจมูกมาค่ะ”

กลับจากยันฮี สาวเกวี๋ยน ก็ออกภาพชุด “กระจกเงา” ซึ่งสะท้อนความโค้งเว้าแห่งเรือนร่างผ่านกระจกบานใหญ่ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากชาวบล็อกออกมาทันควันว่าห่วยแตกกันทั้งกองถ่าย ทั้งโปรดิวเซอร์ ไดเร็กเตอร์

ปลายเดือนที่แล้วโปรดิวเซอร์ของสาวเกวี๋ยนแก้ตัวใหม่ ได้สร้างลุกใหม่ให้กับเธออีกระลอก เปลี่ยนมาเป็นโทนหวานๆ เค็มๆ แบบแบ๋งจึง (Banh Chung) ปนฟรุตเค้ก ทั้งในวันพีซ และทูพีซ แถมยังโชว์จมูกโตที่โดดเด่น คราวนี้ทำเอาแฟนๆ ช็อก

“คุณจะยังรักเธออยู่อีกไหม?” เว็บบล็อกยอดนิยมแห่งหนึ่ง ตั้งคำถามเอากับบรรดาแฟนคลับของสาวเกวียนหลังจากกลับจากศัลยกรรมครั้งล่าสุดในประเทศไทย

แน่นอน.. แฟนคลับจำนวนไม่น้อยบ่นเสียดาย เพราะจมูกของหมอไทยออกมาโตจนคับใบหน้าสวย หลายคนบอกว่า ดูแล้วสู้จมูกเดิมๆ ของเธอครั้งที่เข้าวงการใหม่ๆ ไม่ได้ แต่ตอนนี้จะกลับไปทำให้เหมือนเดิมก็ไม่ได้แล้ว



แต่สาวเกวี๋ยน มองอีกอย่างหนึ่ง.. เธอมองว่า เรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องของใครของมัน ไม่รู้จะไปเก็บซ่อนเอาไว้ทำไม

ข้อดีก็คือ สาวสวยระดับนางงาม ไม่เคยปฏิเสธเรื่อง “ไปทำจมูก” ในประเทศไทย ซึ่ง “เรื่องเฟ้กๆ” แบบนี้ดารา นักร้องและนางแบบอีกจำนวนมากไม่อยากจะเปิดเผย หรือออกมายอมรับกันง่ายๆ

“หนูสงสัยเหมือนกันว่าทำไมเวลาคนไปทำศัลยกรรมมาแล้วมักจะปฏิเสธ ถ้าไปทำมาแล้วมันดูสวยขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายสักหนอย” เกวี๋ยน บอกกับนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่ง ทั้งยังยืนยันอีกว่า เธอพอใจกับมีดหมอยันฮี

“หนูเกลียดจมูกของตัวเองเป็นที่สุด มันดูไม่เข้ากับใบหน้าเลย เคยผ่าที่นี่ (ในเวียดนาม) เมื่อสองปีก่อน แต่ก็ดูไม่ดีขึ้น ส่วนฝีมือของแพทย์ไทยสุดยอดมาก เพอร์เฟกต์มาก แล้วก็จ่าย 2,500 ดอลลาร์เท่านั้น หมอไทยนี่สุดยอดฝีมือจริงๆ” ถึกเกวี๋ยน กล่าว

แต่หน้าอกหน้าใจและส่วนอื่นๆ เธอปฏิเสธมาตลอด เพราะนั่นคือของแท้ที่ตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย







เกิดปี 2530 เป็นชาวโฮจิมินห์ ปีนี้เพิ่งจะ 22 สูง 174 ซม.ยังเรียนไม่จบ และ อนาคตยังยาวไกล ทั้งบนเวทีแคตวอล์ก และในวงการบันเทิงของประเทศ

เกวี๋ยน เคยขึ้นเวทีประกวด “สาวสวยเวียดนาม 2005” (Miss Vietnam Beauty Pageant 2005) ซึ่งตอนนั้นยังละอ่อนอยู่มาก ไม่ได้มงกุฎ แต่ก็คว้ารางวัลสาวงามขวัญใจช่างภาพกลับบ้าน

แต่นั้นมาเกวี๋ยนไม่เคยห่างเวทีเดินแบบ ภาพของเธอขึ้นบนปกแมกกาซีนแนววัยรุ่น สตรี และแนวสวยๆ งามๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า





สาวเกวี๋ยน เดินทางไปร่วมการประกวด Miss Tourism Queen International 2008 ในจีน เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งใครๆ ก็ทราบดีว่า นั่นคือเวทีที่ไม่เหมาะกับหญิงสาวจากเวียดนาม หรือสาวสวยจากย่านนี้

แต่ผู้เข้าประกวดทุกคน รวมทั้ง ถึกเกวี๋ยน ก็ได้ทำอย่างสุดความสามารถในการเผยแพร่วัฒนธรรมกับชื่อเสียงของประเทศ

ไม่มีใครทราบว่าเป็นเพราะจมูกโต หรือ ชุดบิกินี วันนี้เกวี๋ยนกำลังดังปานพลุแตก ชื่อของเธอกำลังพุ่งโด่งราวดอกไม้ไฟฉลองวันตรุษ.