xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวเวียดนามทะลุเมฆเซ็นขายแล้ว 5.5 ล้านตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#660099>ภาพรอยเตอร์วันที่ 8 ก.ค.2552 คนงานยืนพิงกระสอบข้าวในกุดังเก็บขององค์การอาหารแห่งชาติ ทั้งหมดเป็นข้าวนำเข้าจากเวียดนาม ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศนำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ปีนี้เป็นลูกค้าข้าวรายใหญ่ของเวียดนาม ทำให้ปริมาณที่เซ็นซื้อขายจนถึงเดือน ก.ค.พุ่งทะลุ 5.5 ล้านตัน สูงอย่างเป็นประวัติการณ์ ยอดส่งออกจริงอาจจะทะลบุถึง 6 ล้านตันเมื่อสิ้นปี </font></b>

ASTVผู้จัดการรายวัน-- ครึ่งแรกของปี 2552 เวียดนามได้เซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวให้ลูกค้าในต่างประเทศแล้วรวมทั้งสิ้น 5.5 ล้านตัน เกินเป้าหมาย 5 ล้านตันตลอดทั้งปี สมาคมอาหารเวียดนามเปิดเผยตัวเลขนี้ในวันพุธ (8 ก.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข้อยืนยันว่านี่คือ ปริมาณขั้นต่ำที่เวียดนามจะส่งออกในปีนี้ ขณะที่ยังเหลือเวลาอีก 5-6 เดือนข้างหน้า

นายหวี่งมีงเหว (Huynh Minh Hue) รองประธานสมาคมอาหารเวียดนาม หรือ VietFood (Vietnam Food Association) เปิดเผยตัวเลขนี้ระหว่างการประชุมออนไลน์วันเดียวกัน

ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ส่งออกเวียดนาม ได้ส่งมอบข้าวให้แก่ลูกค้าในต่างแดนแล้วทั้งสิ้น 3.65 ล้านตัน ซึ่งได้ทำให้ผู้ค้าออกซื้อข้าวเก็บในสต็อกอย่างคึกคัก เพื่อเดือนที่เหลืออยู่ข้างหน้าและต้นปีหน้า โดยคาดว่าจะมีการส่งออกข้าวอีกราว 2 ล้านตันจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณส่งออกทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 5.65 ล้านตัน ใกล้เคียงกับตัวเลข 6 ล้านตัน ซึ่งเป็นจำนวนคาดการของผู้เชี่ยวชาญ

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (UN Food and Agriculture Organization) หรือ FAO ออกรายงานสัปดาห์ต้นเดือนนี้ ระบุว่าตัวเลขส่งออกข้าวของเวียดนามอาจจะทะลุถึง 6 ล้านตันในที่สุด

ปริมาณที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายแล้วในปัจจุบัน ได้ทำให้เวียดนามกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้เสียตำแหน่งให้แก่อินเดียเมื่อปีที่แล้ว และยังเป็นปริมามณส่งออกที่สูงอย่างเป็นประวัติการณ์อีกด้วย
<br><FONT color=#660099>ทหารซึ่งทำหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือประชาชนในเขตภัยพิบัติ เดินผ่านชาวเผ่าม้งที่กำลังปักดำต้นข้าวทำนาแบบขั้นบันไดใน จ.บั๊กกัน (Bac Kan) สัปดาห์ที่แล้วฝนตกหนักเกิดอุทกภัยใหญ่ในหลายจังหวัดทางตอนเหนือเวียดนาม แต่ก็ยังไกลจากเขตอู่ข้าวใหญ่คือที่ราบปากแม่น้ำโขง ไม่กระทบการส่งออกข้าวของประเทศ</font></b>
ปลายเดือน มี.ค.ปีนี้ รัฐบาลเวียดนามได้สั่งหยุดเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวไว้ชั่วคราว หลังพบว่ามีการเซ็นจำหน่ายไปแล้ว 3.5 ล้านตันในช่วง 2 เดือนแรกของปี และสั่งให้ VietFood ตรวจเช็คปริมาณข้าวให้แน่ใจว่าจะใม่ส่งผลกระทบเสถียรภาพด้านอาหารในประเทศ ท่ามกลางแรงกดดันจากผู้ส่งออกที่มีตัวเลขแม่นย่ำมากกว่า

ผู้ส่งออกกล่าวว่า ปีนี้ทั่วประเทศผลิตข้าวได้มากมายอย่างเป็นประวัติการณ์ และรัฐบาลควรทบทวนคำสั่งห้ามส่งออกในขณะที่ราคาตลาดโลกยังสูงในช่วงไตรมาสที่ 1 ต่อมาต้นเดือน มิ.ย. รัฐบาลจึงได้ไฟเขียวให้ส่งออกได้อีกครั้ง ขณะที่ราคาในตลาดโลกดิ่งลงเรื่อยๆ
เดือน มิ.ยเป็นช่วงเดือนที่ผู้ค้าในเวียดนามแข่งกันออกกว้านซื้อข้าวและหาตลาดส่งออกรอบใหม่ตามคำแนะนำของรัฐบาล เพียงแค่ 10 วันแรกของเดือน ปริมาณที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 4.76 ล้านตัน สื่อของทางการกล่าว

รัฐบาลเวียนดนามได้เร่งเร้าให้ผู้ส่งออกหาตลาดใหม่ๆ ในต่างแดน เพื่อเร่งการส่งออกข้าว โดยอ้างว่าไทยกำลังจะประกวดราคาจำหน่ายข้าว 2-3 ล้านตันในฃ่วงเดียวกัน ขณะที่อินเดียก็จะกลับส่งออกข้าวอีกครั้งหนึ่งในปีนี้

ยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าและรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของข้าวที่เซ็นซื้อขาย แต่หนังสือพิมพ์เตื๋อยแจ๋ (Tuoi Tre) รายงานโดยอ้างตัวเลขของ VietFood ระบุว่า สัญญาซื้อขายจนถึงช่วงต้นเดือน มิ.ย.มีมูลค่ารวม 1,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเดียวกันของปี 2551 และ มีการส่งมอบข้าวให้ลูกค้าจำนวน 3.2 ล้านตัน

การส่งออกข้าวของเวียดนามขึ้นอยู่กับผลผลิตอาหารโดยรวมในแต่ละปี ทั้งนี้เพื่อให้มีความมั่นคงด้านเสบียงอาหารสำหรับประชากร 87 ล้านคน และ ป้องกันมิให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ พุ่งขึ้นสูง เช่นเมื่อต้นปีที่แล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น