ASTVผู้จัดการรายวัน/วีเอ็นเอ -- มีชาวเวียดนามเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 33 ราย ในภัยพิบัติธรรมชาติ ในเขต 8 จังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ ขณะที่ฝนยังตกหนักยืดเยื้อมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม พร้อมกับเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน กับอีก 4 คน ยังสูญหายในวันอังคารที่ผ่านมา ในเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มใน จ.กว๋างนิง (Quang Ninh) เอียนบ๋าย (Yen Bai) กับ จ.เซินลา (Son La) ซึ่งทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตใน 6 จังหวัดเขตภูเขาสูงเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 6 คน ทั้งนี้ เป็นรายงานของวีเอ็นเอซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการ
ใน จ.กว๋างนีง ซึ่งเป็นที่ตั้งของอ่าวฮาลองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเวียดนาม คลื่นลมแรงได้ซัดเรือหาปลาลำหนึ่งหายไป มีหญิงสูญหายไป 3 คน อีก 5 คน บนเรือได้รับการช่วยเหลือทันการณ์จากเจ้าหน้าที่ยามฝั่ง
ฝนเริ่มตกตั้งแต่วันพุธสัปดาห์ที่แล้วทางตอนบนของประเทศ และเริ่มตกหนักในคืนวันศุกร์ พร้อมเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กับ ดินเลื่อนและดินถล่มในหลายจังหวัด แต่มีผู้เสียชวิตมากที่สุดใน จ.บั๊กกัน (Bac Kan) กับ จ.ลายโจว (Lai Chau) ซึ่งนับจำนวนรวมกันได้ 22 คนในวันอังคารที่ผ่านมา ในนั้นหลายคนถูกฝังทั้งเป็นในเหตุการณ์ดินถล่ม
มีผู้เสียชีวิตเช่นกันใน จ.ก๋าวบ่าง (Cao Bang) จ.ล่าวกาย (Lao Cai) และ จ.ห่าซยาง (Ha Giang) ซึ่งอยู่ติดชายแดนจีน คณะกรรมการป้องกันและกู้ภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวว่ามีผู้สูญหายอีก 3 คนในจังหวัดต่างๆ เหล่านี้
พายุยังพัดพาบ้านเรือนของราษฎรเสียหายหลายร้อยหลังคา สะพานพังเสียหายจำนวน 9 แห่ง พื้นที่เพาะปลูกของราษฎรเสียหายราว 600 เฮกตาร์ (กว่า 3,700 ไร่) ขณะที่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มออกค้นหาราษฎรที่ยังสูญหาย ซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิตแล้วทั้งหมด
ทางการแถลงในวันอังคารว่า มีบ้านเรือนเกือบ 800 หลังคาได้รับความเสียหายหรืออยู่ในสภาพจมน้ำในเขตภัยพิบัติ 8 จังหวัด ระบบชลประทานและเส้นทางคมนาคมระหว่างจังหวัด กับระหว่างอำเภอเสียหายหลายแห่ง
ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศอันเลวร้าย มักจะเริ่มขึ้นในเดือน ก.ค.ของทุกปี และ จะลากยาวไปจนถึงเดือน ก.ย.หรือ ต.ค.แต่ปีนี้ภัยพิบัติเติ่มมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว
ตามรายงานของสื่อในเวียดนาม วันอังคารที่ผ่านมาทหารและตำรวจได้ใช้สุนัขดมกลิ่นออกค้นหาเหยื่ออุทกภัย
ทุกๆ ปีจะมีไต้ฝุ่น 8-10 ลูก พัดเข้าเวียดนามที่มีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร บางลูกได้อ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ก็ยังมีอำนาจทำลายล้างอย่างสูง หลายครั้งทำให้ประเทศเพื่อนบ้านคือ กัมพูชา ไทยและลาวได้รับผลกระทบไปด้วย
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 500 ราย อีกนับร้อยคนยังสูญหายในภันพิบัติที่เกิดจากลมฟ้าอากาศเมื่อปีที่แล้ว สร้างความเสียหายแก่พืชเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ามหาศาล แต่ภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ยังอยู่ไกลจากเขตอู่ข้าวภาคเหนือหรือเขตไร่กาแฟในที่ราบสูงภาคกลางของประเทศ
พายุโซนร้อนสองลูกที่พัดกระหน่ำเข้าภาคเหนือเวียดนามปีที่แล้ว ได้ทำให้ฝนหนักในภาคเหนือของลาว น้ำในลำน้ำโขง
ที่นครเวียงจันทน์ มีระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี อุทกภัยทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย บ้านเรือนราษฎรเสียหายจำนวนมากเช่นเดียวกันกับพื้นที่เพาะปลูก และเส้นทางคมนาคม