ASTVผู้จัดการออนไลน์-- กองทุนเพื่อประชากรแห่งสหประชาชาติหรือ UNFPA (UN Population Fund ) กล่าวว่า จำนวนประชากรเวียดนามยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอด 20 ปีข้างหน้า ซึ่งตรงกับการคิดคำนวณของผู้เชี่ยวชาญที่ว่า ในอีก 10 ปีจะมีชาวเวียดนามกว่า 100 ล้านคน จากประมาณ 86.7 ล้านคนในปัจจุบัน
หน่วยงานด้านประชากรของสหประชาชาติยังพบอีกว่า สัดส่วนทารกเพศหญิงกับเพศชายที่เกิดใหม่ยังคงเสียสมดุลอย่างต่อเนื่อง จากอัตรา 112 ต่อ 110 เมื่อ 3 ปีก่อน แต่ก็ไม่ได้แสดงสัดส่วนใหม่เมื่อปี 2551
ตาม “รายงานประชากรเวียดนามประจำปี 2551” หน่วยงานของสหประชาชาติกล่าวว่า แม้ในปัจจุบันอัตราการเจริญพันธุ์ (Total Fertility Rate) ในเวียดนาม ได้ลดลงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และ อัตราการเกิดลดลงต่อเนื่อง แต่จำนวนประชากรยังจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดชั่วหนึ่งอายุคนข้างหน้า จนกว่าประชากรที่เกิดในช่วง "เบบี้บูม" คือช่วงหลังสงครามสิ้นสุดลงจะผ่านพ้นวัยเจริญพันธุ์ไป
รายงานกล่าวอีกว่าอัตรา TFR ได้ลดลงเป็น ทารก 2.08 คนต่อมารดา 1 คน แต่ก็ยังมีความผันแปรตามท้องถิ่นต่างๆ ระหว่างเขตเมืองกับชนบท ตั้งแต่ 1.84-2.22
นอกจากนั้นลักษณะ "การเกิดใหม่" ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้ที่ให้กำเนิดทารกครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่แล้วยังเป็น "คุณแม่วัยสาว" ปัจจุบันกลายเป็น "คุณแม่ที่อายุมากขึ้น"
การสำรวจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของประชากรและการวางแผนครอบครัวยังได้พบอัตราทารกเกิดใหม่เพศชาย ที่ยังคงมากกว่าทารกเพศหญิงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะแสดงให้เห็นว่า กฎหมายเกี่ยวกับการห้ามเลือกเพศทารก หรือ การตรวจเพศทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดานั้น อาจจะใช้ไม่ได้ผล
ครอบครัวชาวเวียดนามที่ไปมีความต้อการทารกเพศชายมากกว่าทารกเพศหญิง โดยเชื่อว่าลูกชายเลี้ยงดูบิดามารดา และดูแลธุรกิจต่างๆ ของวงศ์ตระกูลได้กว่าลูกสาว ทำให้เกิดการเลือกเพศทารกก่อนเกิด และ การลักลอบทำแท้งทารกที่ไม่พึงประสงค์ติดตามมา
ในช่วงหลายปีมานี้ นักวิชาการด้านประชากรในเวียดนามได้ออกเตือนเกี่ยวกับการเสียสมดุลในเรื่องเพศของทารกมาอย่างต่อเนื่อง โดยชี้ให้เห็นว่าหากไม่มีการแก้ไขก็จะทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ติดตามมาอย่างมากมาย รวมทั้งปัญหาอาชญากรรมด้วย
นักประชากรศาสตร์ในเวียดนามเคยคิดคำนวณเอาไว้ว่าในปี 2020 จำนวนประชากรในเวียดนามอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นระหว่าง 100-120 ล้านคน และอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านคนในปี 2030.