xs
xsm
sm
md
lg

เตือน ประชากรโลกจะทะลุ 9 พันล้านภายในปี 2050

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวนิวยอรืกคราครั่งที่สถานนีรถไฟใต้ดินยูเนียนสแควร์
เอเอฟพี - ประชากรของโลกจะทะลุ 9,000 ล้านคน ในปี 2050 สูงขึ้นจากจำนวน 6,800 ล้านคนในปีนี้ และในปี 2012 จะมีถึงจำนวน 7,000 ล้านคน ทั้งนี้ เป็นรายงานผลการประเมินของสหประชาชาติซึ่งเผยแพร่ออกมาวันนี้ (12)

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ประชากรที่เพิ่มขึ้น 2,300 คน ส่วนใหญ่จะทำให้ประชากรเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาแล้ว ซึ่งประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 5,600 คน ในปีนี้ เป็น 7,900 คน ในปี 2050 โดยจะเป็นการขยายกลุ่มประชากรที่มีอายุระหว่าง 15-59 ปี (1,200 ล้านคน) และกลุ่มคนอายุ 60 ปี หรือมากกว่า (1,100 ล้านคน)

การคาดคะเนจำนวนประชากรของยูเอ็นในปี 2008 คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งควรจะเพิ่มจาก 1,230 ล้านคน เป็น 1,280 ล้านคน ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่กลับจะต่ำลงเป็น 1,150 ล้านคน โดยที่ไม่รวมตัวเลขคาดการณ์การอพยพจากกลุ่มประชากรในประเทศกำลังพัฒนาไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะมี 2,400 คน ในแต่ละปี จากปี 2009-2050

ในปี 2005-2010 การอพยพใน 8 ประเทศ ซึ่งมากกว่าเป็นสองเท่าของสัดส่วนการเพิ่มจำนวนประชากรโดยธรรมชาติ (การเกิด ลบด้วยการตาย) ได้แก่ ประเทศเบลเยียม มาเก๊า สาธารณรัฐเช็ก ลักเซมเบิร์ก กาตาร์ สิงคโปร์ สโลเวเนีย และ สเปน

ระหว่างปี 2010-2050 คาดว่า ประเทศที่จะต้องรับการอพยพของชาวต่างชาติใหญ่ๆ ได้แก่ สหรัฐ (1.1 ล้านคน) แคนาดา (214,000 คน), อังกฤษ (174,000 คน), สเปน (170,000 คน), อิตาลี (159,000 คน), เยอรมนี (110,000 คน), ออสเตรเลีย( 100,000 คน), และฝรั่งเศส (100,000 คน) ในแต่ละปี

ขณะที่ประเทศกลุ่มประเทศหลักๆ ที่จะมีการอพยพออกของประชากรจำนวนมาก ได้แก่ เม็กซิโก (334,000 คน), จีน (309,000 คน), อินเดีย (253,000 คน), ฟิลิปินส์ (175,000 คน) และปากีสถาน (161,000 คน)

ด้านประชากรของกลุ่มประเทศที่ด้อยพัฒนาที่สุด 49 ประเทศ ก็จะเพิ่มจาก 840 ล้านคน ในปีนี้ เป็น 1,700 ล้านคน ในปี 2050 ทั้งนี้ คาดว่า อัตราการเจริญเติบโตในประเทศกำลังพัฒนาก็จะเพิ่มรุนแรง ด้วยการเพิ่มประชากรจาก 4,800 ล้านคน เป็น 6,200 ล้านคน ระหว่างขณะนี้ถึงปี 2050

อย่างไรก็ตาม การเจริญเติบโตของประชากรในอนาคตขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราการเจิญพันธุ์ ซึ่งคาดว่า จะตกจากเด็ก 2.56 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนในระหว่างปี 2005-2010 เป็น 2.02 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนระหว่างปี 2045-2050

โทรายา อาห์เหม็ด ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ(ยุเอ็นเอฟพีเอ) กล่าวว่า รายงานดังกล่าวเป็นการเตือนให้บรรดาผู้นำโลกตระหนักถึงผลระยะยาวจากความล้มเหลวในการลงทุนกับผู้หญิง 200 ล้านคน ที่ขาดช่องทางเข้าถึงความปลอดภัยและการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังเสนอแนะด้วยว่า ควรมีการขยายช่องทางการให้บริการด้านสาธารณสุข รวมถึงการวางแผนครอบครัว ความปลอดภัยของมารดา และการป้องกันการระบาดของเชื้อเอชไอวีด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น