ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ในแต่ละวันมีการนำเข้าเนื้อหนูจากกัมพูชากว่า 50 ตัน ผ่านด่านชายแดนจำนวน 2 แห่ง ในภาคใต้เวียดนาม มีผู้ทำธุรกิจนี้หลายสิบคน โดยรับซื้อจากผู้ค้าชาวเขมรก่อนจะจำหน่ายต่อให้แก่ผู้ค้าในเวียดนาม ในราคาขายส่ง
ที่ด่านชายแดนแค็งบี่ง (Khanh Binh) อ.อานฝู (An Phu) จ.อาน-ซยาง (An Giang) มีผู้ค้ากว่า 30 ราย มีการนำเข้าเนื้อหนูผ่านด่านแห่งนี้วันละ 35 ตัน ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อทางการเวียดนาม อ้างการเปิดเผยของนายเหเวียนวันถ่าว (Nguyen Van Thai) หัวหน้าแผนกการเกษตรและพัฒนาชนบทของอำเภอ
ผู้ค้าเนื้อหนูคนหนึ่งที่แค็งบี่ง กล่าวว่า อีกฟากหนึ่งของชายแดน ทุกๆ วันจะมีชาวกัมพูชานำหนูนาไปจำหน่ายอย่างไม่ขาดสาย และจะมีมากขึ้นในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว เนื่องจากเป็นฤดูที่หนูชุกชุมมากที่สุด
จ.อาน-ซยาง มีชายแดนติดกับ จ.ตะแกว (Ta Keo) ของกัมพูชา ซึ่งมีเขตแดนติดต่อกับ จ.กันดาล (Kandal) เขตอู่ข้าวที่ขึ้นชื่อในการจับหนูนา ทั้งในฤดูปักดำและฤดูเก็บเกี่ยว
ที่ด่านชายแดนตี๋งเบียน (Tinh Bien) ในเขตอำเภอชื่อเดียวกันก็มีสภาพไม่ต่างกัน มีการซื้อขายหนูนากันทุกวัน ซึ่งเมื่อรวมกับการซื้อขายผ่านชายแดนทั้งสองแห่งในจังหวัดนี้เข้าด้วยกันแล้ว ปริมาณซื้อขายในแต่ละวันก็จะมากกว่า 50 ตัน
หนูนาตัวเป็นๆ รับซื้อในราคา 35,000-40,000 ด่ง (2-2.3 ดอลลาร์) ต่อกิโลกรัม และหากเป็นเนื้อหาที่ชำแหละแล้วราคาก็จะสูงถึง 50,000 ด่ง (2.9 ดอลลาร์) ต่อ กก.ส่วนราคาของหนูนาสีน้ำตาลตัวเป็นจะอยู่ระหว่าง กก.ละ 50,000-60,000 ด่ง ขึ้นอยู่กับขนาด โดยขนาดใหญ่จะขายได้ราคาดีกว่า
และถ้าหากเป็นเนื้อหนูนาสีน้ำตาลที่ชำแหละแล้วราคาจะพุ่งขึ้นเป็น 75,000-80,000 ด่ง ต่อ กก.เลยทีเดียว หนูนาตัวเป็นที่รับซื้อจากผู้ค้าชาวเขมรจะชำแหละใน จ.อาน-ซยาง ก่อนจะจำหน่ายเนื้อหนูชำแหละให้ผู้ค้าจากนครเกิ่นเทอ (Can Tho) และ นครโฮจิมินห์ อีกต่อหนึ่ง
เนื้อหนูได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมากอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโฮจิมินห์ สำนักข่าวเวียดนามเน็ต กล่าว