ASTVผู้จัดการออนไลน์-- เจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชาที่เคยแสดงท่าทียินดีต่อการเปิดแหล่งท่องเที่ยวเขาพระวิหารของรัฐบาลไทย ได้กลับลำ 180 องศาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาจะยังไม่เปิดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร จนกว่าไทยจะถอนทหารออกจากบริเวณนั้นทั้งหมด
นายฟายสีฟาน (Phay Sy Phan) โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวถึงเรื่องนี้ในการให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ภาคภาษาเขมรเมื่อวันพุธ (11 ก.พ.)
ทางการกัมพูชาปิดทางขึ้นปราสาทพระวิหารตั้งแต่เดือน มิ.ย.2551 ไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมปราสาทอายุ 900 ปี ขณะเตรียมการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และ ทหารของสองฝ่ายเริ่มเผชิญหน้ากัน
"ถึงจุดนี้ต้องขอบอกว่า เราเรียกร้องให้คืนพื้นที่เหล่านี้ ให้กลับคืนไปสู่ที่เคยเป็นอยู่ก่อนเดือนกรกฎาคม 2551…”
“นี่เป็นจุดที่เราเรียกร้อง และ เราได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนไปแล้วว่าทันทีที่ความขัดแย้งได้รับการแก้ไข เราจะคืนพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นเขตแดนสำหรับนักท่องเที่ยวนานาชาติและเปิดทางขึ้นจากฝั่งไทย" โฆษกของกัมพูชากล่าว
นายฟานให้ความเห็นดังกล่าวหลังจาก จ.ศรีสะเกษ ได้เปิดเขตวนอุธยานแห่งชาติผามออีแดง ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปยังปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้ทำให้นักท่องเที่ยวนับร้อยๆ คนไปที่นั่นโดยหวังว่าจะได้มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทแหล่งมรดกโลก RFA กล่าว
โฆษกคนเดียวกันนี้กล่าวว่า ฝ่ายไทยยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ต่อการเรียกร้องของฝ่ายกัมพูชาในขณะนี้
สัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีกัมพูชาสมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าวว่า ได้บรรลุความตกลงถอนทหารกับฝ่ายไทย ระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม
ผู้นำกัมพูชากล่าวว่าสองฝ่ายจะถอนทหารออกจากพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร แต่คำแถลงดังกล่าวได้รับการปฏิเสธจากฝ่ายทหารของไทย
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาค 2 ของไทยกล่าวว่า จะยังไม่มีการถอนทหารใดๆ ทหารไทยจะยังคงประจำอยู่ที่นั่นเพื่อรักษาดินแดนของไทย
นายทหารกัมพูชาผู้หนึ่งที่อยู่ร่วมคณะเจรจากับฝ่ายไทยสัปดาห์ที่แล้วกล่าวในเวลาต่อมาว่า จะมีการเจรจาเกี่ยวกับการถอนทหารในการประชุมเจรจากับฝ่ายไทยครั้งต่อไป
เมือต้นสัปดาห์นี้นายฟายให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ในกัมพูชาว่า รัฐบาลพนมเปญกำลังพิจาณาเปิดประตูทางขึ้นปราสาทพระวิหารจากทางฝั่งไทย หลังจากไทยได้เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมเขตวนอุทยานแห่งชาติทางฝั่งไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี.