ASTVผู้จัดการออนไลน์—เว็บไซต์ที่กัมพูชากำลังหาทางปิด พยายามดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อหาทางรอด ขณะที่ทางการได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั้ง 6 ราย ในประเทศ เพื่อช่วยบล็อกหรือปิดกั้นมิให้เข้าไปเผยแพร่ในประเทศ
แต่เว็บดังกล่าวก็ยังคงโลดแล่น และมีการเผยแพร่ภาพเขียนศิลปะชิ้นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ แม้บางความเห็นจะสะท้อนว่านอกจากเป็นศิลปะแล้วก็ยังมี
ความเป็นอนาจารแอบแฝงอยู่ด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวได้นำเอาภาพวาดที่ยังเขียนเรื่องราวในวรรณคดีที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีออกเผยแพร่ เป็นภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหากาพย์รามายณะ หรือ “รามเกียรติ์” โดยวาดเป็นฉากพระรามกับนางสีดาเล่นบทพิสดาร กับภาพ “กำเนิดมัจฉานุ”
ผู้เข้าชมเว็บจำนวนหนึ่งให้ความเห็นว่า “บทอัศจรรย์” ในวรรณคดีนั้น ออกมางดงามยิ่ง ทำให้ผู้อ่านวรรณคดีได้เห็นจริงๆ ว่า นางสีดาที่ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นสตรีที่เลอโฉมยิ่งนั้น มีความงดงามเพียงไร ซึ่งนักเขียนภาพผู้นี้แสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะยังเป็นเพียงภาพสเกตช์เค้าโครง ยังไม่แล้วเสร็จและยังไม่ได้เป็นภาพสีออกมาเหมือนภาพอื่นๆ ก็ตาม
สำหรับภาพ “กำเนิดมัจฉานุ” ซึ่งแสดงการเสพสมระหว่างทหารเอกพระราม คือ หนุมาน กับนางสุวรรณมัจฉา อีกฝ่ายหนึ่ง ก็ได้แสดงให้เห็นความงดงามของนางในวรรณคดีกึ่งมนุษย์กึ่งปลา กับวารที่เป็นทหารเอกพระราม
ภาพนี้ได้ฉายให้ทหารเอกพระรามที่ร่างกำยำล่ำบึก ต่างกับหนุมานในโขนหรือละครซึ่งเป็นเพียงวานรปกติ คล่องแคล่วด้านการกระโดดโลดเต้น
นางสุวรรณมัจฉา เวลาต่อมาได้ให้กำเนิดตัวละครในวรรณคดีอีกตัวหนึ่ง คือ “มัจฉานุ” ซึ่งมีร่างกึ่งปลากึ่งวานร มีอิทธิฤทธิ์สูงยิ่ง
กระทรวงกิจการสตรีกัมพูชา โดยรัฐมนตรี คือ นางอิงกัณฑาภาวี (Ing Kantha Phavy) ได้ประกาศจะปิดเว็บไซต์แห่งนี้ได้ลงหลังจากปลาย
ปีที่แล้วมีการเผยแพร่ภาพเขียนนางอัปสรา (Apsara) หรือ “อัปสร” เสมือนจริงในสภาพเปลือยอก โดยมีเบื้องหลังเป็นภาพระเบียงคดปราสาทนครวัด ปัจจุบันมีภาพนางอัปสรในยุคดิจิตอลเผยแพร่บนเว็บไซต์อีกจำนวนมาก
เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าของเว็บไซต์ซึ่งเป็นจิตรกรชาวกัมพูชาที่อาศัยทำกินในสหรัฐฯ ได้เขียนคำแนะนำถึงแฟนๆ เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยหาทางเข้าโฮมเพจได้ ในกรณีที่ถูกปิดกั้น
เจ้าตัวกล่าวว่าจะไม่ยอมแพ้เนื่องจากการเผยแพร่งานศิลปะและไม่ใช่อาชญากรรม ขณะเดียวกัน ก็กำลังจะเปลี่ยนเว็บโฮสต์ คือ ย้ายไปสังกัดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ในโลกไซเบอร์ รวมทั้งเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (IP) เพื่อหลบหนีการปิดกั้น
ตามรายงานของสื่อในกัมพูชา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบางแห่งยังไม่เห็นด้วยที่จะปิดเว็บดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นการแสดงงานศิลปะที่อาจจะขัดแย้งสายตาของรัฐมนตรีหญิงแห่งกระทรวงกิจการสตรี แต่ถ้าหากดูในแง่ศิลปะแล้วภาพเขียนทั้งหมดจะเป็นสื่อช่วยเผยแพร่ปราสาทนครวัดกับประเทศกัมพูชาให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
แต่รัฐมนตรีกิจการสตรี กล่าวว่า เด็กๆ และเยาวชนในประเทศกำลังเข้าไปดูภาพเขียนอนาจารที่เว็บแห่งนั้นเป็นจำนวนมากขึ้นทุกทีๆ
