ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการลาวได้จัดพิธีไว้อาลัยครั้งสุดท้าย นายคำผาย บุปผา นักปฏิวัติอาวุโส อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้เป็นประจักษ์พยานการปรับตัวและปรับความสัมพันธ์กับประเทศไทย เพื่อนบ้านใกล้ชิดที่สุดตลอดทศวรรษหลังการปลดปล่อย
ผู้นำพรรคและรัฐลาว ซึ่งนำโดย พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน ประธานประเทศ เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ได้ไปร่วมไว้อาลัยแก่ “สหายคำผาย” เป็นครั้งสุดท้ายวันอังคาร (5 ม.ค.) ที่ผ่านมา ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี ก่อนจะเคลื่อนศพสู่วัดทาดฝุ่น นครเวียงจันทน์ เพื่อทำพิธีฌาปนกิจในเวลาบ่ายวันพุธนี้
นายกรัฐมนตรีลาว บัวสอน บุปผาวัน รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 และรัฐมนตรีกลาโหม พล.ท.ดวงใจ พิจิต กรรมการกรมการเมืองอีกหลายคน ตลอดจนตัวแทนสภาแห่งชาติ ศูนย์กลางสหพันธ์แนวลาวสร้างชาติ องค์กรมหาชนต่างๆ ได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าวอย่างครบครัน เป็นเกียรติแด่ผู้ล่วงลับ ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อทางการลาว
ก่อนหน้านั้น รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานศพ นายคำผาย โดย นายทองลุน สีสุลิด รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศเป็นประธาน เพื่อดำเนินการและกำกับดูแลการจัดพิธีอย่างสมเกียรติ
นายคำผาย ถึงแก่กรรมเวลาบ่ายโมงวันที่ 2 ม.ค.2552 สิริรวมอายุ 92 ปี สำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) กล่าว
ตามประวัติอย่างเป็นทางการ นายคำผาย เกิดวันที่ 5 ม.ค.2460 เป็นชาวเมืองหลวงพระบาง แต่งงานกับ นางคำแพง บุปผา มีบุตร-ธิดารวม 5 คน ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเขตเมืองสีสัดตะนาก นครเวียงจันทน์ ท่ามกลางลูกๆ หลานๆ
นายคำผาย เข้าร่วมการปฏิวัติตั้งแต่ปี 2488 ต่อสู้ขับไล่เจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส เพื่อเอกราชแห่งชาติ โดยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารปลดแอกประจำแขวงหลวงพระบาง
ระหว่างปี 2489-2490 ย้ายไปเป็นผู้บัญชาการกองทหารลาวอิสระในเขตเมืองปากกลาย เมืองบ่อแตน เมืองแก่นท้าว แขวงไซยะบูลี และเขตเมืองสานะคาม (ในแขวงเวียงจันทน์ปัจจุบัน) นำการเคลื่อนไหวสร้างสำนึกทางการเมืองระดับรากฐาน
ช่วงปี 2494-2498 เป็นรองประธานแนวร่วมเขตภาคกลาง รับผิดชอบทางหลวงเลข 9 แขวงสะหวันนะเขต ปลายปี 2498 เป็นหัวหน้าโฆษณาอบรมรัฐบาลแนวลาวอิสระในแขวงหัวพัน และเป็นผู้แทนราษฎรในนครเวียงจันทน์
ช่วงปีใกล้ๆ ก่อนการปลดปล่อยเป็นผู้รับผิดชอบสถานีวิทยุอิสระที่ชายแดนแขวงหัวพัน ต่อมาได้ไปรับตำแหน่งอุปทูตประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ณ กรุงฮานอย
ชีวิตของนักรบปฏิวัติจากหลวงพระบางเปลี่ยนไปอย่างไม่หยุดยั้ง ต่อมาเป็นเอกอัครราชทูตรัฐบาลผสมประจำเวียดนาม เป็นกรรมการศูนย์กลางแนวลาวรักชาติ เป็นผู้แทนประจำเวียดนาม ก่อนจะกลับเวียงจันทน์ไปทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของรัฐบาลผสมในช่วงสุดท้ายปี 2517-2518
หลังการยึดอำนาจของแนวลาวรักชาติ ซึ่งก็คือ พรรคประชาชนปฏิวัติลาวในปัจจุบัน นายคำผาย ได้รับแต่งตั้งเป็นรองรัฐมนตรีคนที่ 1 ของ นายพูน สีปะเสิด รมว.ต่างประเทศ จนกระทั่งปี 2525 จึงได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 3 ต่อไปจนถึงสมัยที่ 4 ต่อมายังได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศจนถึงปี 2536 จึงเกษียณจากการงานทุกอย่างเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว
นายคำผาย ทำหน้าที่สำคัญในช่วงปีที่ลาวกับไทยพยามปรับตัวและปรับความสัมพันธ์ต่อกัน
ช่วงปีอันยาวนานนั้นเกิดการปะทะตามแนวชายแดน และตามลำน้ำโขงหลายครั้ง นำไปสู่การเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา จนกระทั่งเข้าสู่ยุคสมัยที่สองประเทศเพื่อนบ้านได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ พัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือต่อกันอย่างแน่นแฟ้นเช่นทุกวันนี้