xs
xsm
sm
md
lg

เขมรโทษไทย-วิกฤติโลกทำนักท่องเที่ยวหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#cc00cc> ภาพ AFP จากแฟ้มเดือน พ.ค.2551 ไกด์ทัวร์สาวกำลังนำนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่เข้าใจว่าจะเป็นชาวไทยเที่ยวชมบริเวณปราสาทนครวัด อีกเพียง 3 เดือนต่อมาเมื่อเกิดการเผชิญหน้าทางทหารที่ชายแดนด้านเขาพระวิหาร นักท่องเที่ยวชาวไทยก็เริ่มหายหน้า </FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน-- ทางการกัมพูชาแสดงความผิดหวังที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2551 ไม่เข้าเป้า โดยกล่าวโทษความไร้เสถียรภาพในประเทศไทยกับวิกฤติการณ์การเงินโลกเป็นสาเหตุหลัก

ตลอดปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางไปเที่ยวราชอาณาจักรกัมพูชาประมาณ 2.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นเพียง 6% จากปี 2550 และต่ำกว่าเป้าหมาย 15-20% ที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี หนังสือพิมพ์ "ข่าวพาณิชย์" อ้างการเปิดเผยของนายทองคูน (Thong Khon) รัฐมนตรีการท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวเป็นแขนงเศรษฐกิจและบริการที่นำรายได้เข้าประเทศมากเป็นอันดับสองรองจากอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออก ที่กำลังเผชิญปัญหายอดสั่งซื้อลดลง โรงงานหลายแห่งปิดลงและคนงานนับหมื่นถูกเลิกจ้าง

เชื่อกันว่าอุตสาหกรรมหมายเลขหนึ่งนี้จ้างแรงงานระหว่าง 300,000-350,000 คนในกัมพูชา

ประเทศนี้ยังมีปราสาทนครวัดใน จ.เสียมราฐ กับ พระราชวังในกรุงพนมเปญ ตลอดจนสภาพบ้านเมืองที่ยังเหลือร่องรอยจากยุคอาณานิคมเป็นแรงดึงดูดสำคัญของการท่องเที่ยว

กัมพูชากำลังพัฒนาเขตชายฝั่งทะเลอ่าวไทย หาดทรายและเกาะต่างๆ ให้เป็นปลายทางท่องเที่ยวสำคัญในอนาคต โดยหวังเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวชายทะเลในภาคใต้เวียดนามและภาคตะวันออกของไทย
<CENTER><FONT color=#cc00cc>ภาพจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งแสดงให้เห็นผับในเมืองเสียมราฐที่ดูเงียบเหงา กัมพูชากล่าวว่าความไร้เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศไทยเป็นต้นเหตุสำคัญทำให้นักท่องเที่ยวลดลง </FONT></CENTER>
ตามรายงานของสื่อกัมพูชาในช่วงปลายเดือน พ.ย.-ต้นเดือน ธ.ค. ที่มีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเวลากว่าสัปดาห์ ประเทศต้องสูญรายได้วันละประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ นักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูงไม่สามารถเดินทางเข้าได้ โรงแรมหรูในเมืองเสียมราฐเงียบเหงา ส่งผลกระทบถึงผู้คนทุกระดับ

เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวกัมพูชากล่าวในช่วงนั้นว่า อาจจะต้องหาทางชักชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าโดยผ่านประเทศอื่นๆ แทนประเทศไทยให้มากขึ้น จึงจะแก้ปัญหาเช่นนี้ได้ในอนาคต

ตามรายงานของ "ข่าวพาณิชย์" ปี 2551 นักท่องเที่ยวราว 33% เดินทางเข้ากัมพูชาโดยผ่านไทย อีก 29% เดินทางเข้าโดยผ่านเวียดนาม ชาวเกาหลียังคงเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุด รองลงไปเป็นชาวเวียดนาม ญี่ปุ่น อเมริกันและชาวจีน ตามลำดับ

สัปดาห์ปลายเดือน ธ.ค. ทางการกัมพูชาได้ประกาศแผนการเปิดด่านพรมแดนด้านเวียดนามอีกจำนวน 9 จุด ชายแดนไทยอีก 6 จุด และ ลาวอีก 1 จุด โดยหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกทิศทุกทางให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น
<CENTER><FONT color=#cc00cc> แต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้กู้ทำลายระเบิดลูกหนึ่งที่คนร้ายนำไปวางไว้ใกล้ๆ กระทรวงกลาโหมในกรุงพนมเปญ ที่นั่นยังอยู่ใกล้สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อีกด้วย (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>
นายภาค สุขุม (Pheak Sokhom) รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ในเวียดนามว่า ด่านชายแดนที่เปิดใหม่ล้วนตั้งอยู่ในจุดที่มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติสวยงาม

เจ้าหน้าที่กัมพูชาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจุดผ่านแดนและด่านชายแดนที่จะเปิดในต้นปีนี้ แต่กล่าวว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยด่านใหญ่ที่สุดอยู่ในสองจุด ที่ชายแดนด้านประเทศไทยและชายแดนเวียดนาม

ทางการกัมพูชาไม่ได้พูดถึงนักท่องเที่ยวจากไทยที่เคยติดอันดับต้นๆ แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐยอมรับก่อนหน้านี้ว่า ความตึงเครียดที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหารทำให้ชาวไทยเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในกัมพูชามีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในช่วงเดือนแห่งการเผชิญหน้า ทางการกัมพูชาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับดูแลความปลอดภัยและคุ้มครองชาวไทยในกัมพูชาอย่างเคร่งครัด แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น