ASTVผู้จัดการออนไลน์—เศรษฐกิจกัมพูชาที่กำลังโลดแล่นเหมือนถูกติดเบรก ปีนี้ยอดเงินลงทุนเริ่มดิ่งหัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจนถึงเดือน พ.ย.ปีนี้ เงินที่ต่างชาติเคยทุ่มลงไปในภาคก่อสร้างที่เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจหดหายไปกว่า 12% คนงานนับหมื่นๆ ต้องว่างงาน ส่งผลกระทบอีกทอดหนึ่งถึงอุตสาหกรรมสนับสนุนต่างๆ
วิกฤติการการเงินโลกได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการก่อสร้างในกัมพูชา เนื่องจากเงินทุนส่วนใหญ่เป็นทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งของนักลงทุนจากเกาหลีที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก เศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ
ตัวเลขของรัฐบาลที่เผยแพร่ล่าสุดในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่า 11 เดือนแรกของปีนี้เงินที่เข้าลงทุนในภาคก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หาไปราว 12.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จาก 3,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2550 เหลือ 2,800 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เป็นตัวเลขของประทรวงบริหารที่ดินวาง แผนเขตเมืองและก่อสร้าง
สิ่งนี้เกิดจาภาวะซบเซาของธุรกิจก่อสร้าง การตกต่ำของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ และการถอดถอยของเศรษฐกิจโลกโดยรวม ซึ่งภาคก่อสร้างทั่วโลกก็ประสบปัญหาเดียวกัน 11 เดือนแรกของปีนี้ดัชนีภาคก่อสร้างของดาวน์โจนส์ลดวูบลงถึง 44% ในปีนี้ มากกว่าดัชนีอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ย 2%
สำหรับกัมพูชาสหภาพแรงงานกล่าวว่าประมาณ 30% ของคนงานในภาคก่อสร้างต้องว่างงานลง เนื่องจากโครงการต่างๆ ต้องหยุดชะงักลงหรือล้มเลิกไป ขณะที่ตัวเลขของกระทรวงบริหารที่ดินฯ ระบุว่าธุรกิจก่อสร้างในประเทศนี้เคยว่าจ้างคนงานระหว่าง 45,000-50,000 คน มีรายได้ตั้งแต่ 60-1,200 ดอลลาร์ต่อเดือน
นายอิมจุนลิม (Im Chun Lim) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกล่าวเมื่อวันพุธว่า การถดถอยรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นกับโครงการลงทุนจากต่างประเทศ และคาดว่าปี 2552 จะย่ำแย่ลงไปอีก
การก่อสร้างที่ซบเซาส่งผลทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างหล่นวูบลง 30-40% และขายไม่ออกผู้ประกอบการที่ยังต้องอาศัยสินเชื่อธนาคารสิ้นเนื้อประดาตัวไปจำนวนมาก
รัฐมนตรีผู้นี้กล่าวว่าโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น โครงการเมืองใหม่แคมโคซิตี (Camko City) อาคารโกลด์ทาวเวอร์ 42 (Gold Tower 42) และ โครงการไอเอฟซีทาวเวอร์ (IFC Tower) ยังคงดำเนินต่อไปแต่ความคืบหน้าชะลอลง
ในช่วงเดือ น ม.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมาทั่วประเทศมีโครงการก่อสร้างประมาณ 1,869 โครงการ เทียบกับปี 2550 ที่มี 1,942 โครงการ
นับเป็นครั้งแรกที่มีการออกยืนยันในตัวเลข หลังจากรายงานของสื่อต่างๆ ก่อนหน้าล้วนระบุตรงกันว่า โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงพนมเปญได้ปิดตัวเองลงทั้งหมดแล้ว
นายจัน สุฟาล (Chan Sophal) ประธานสมาคมเศรษฐกิจกัมพูชา (Cambodian Economic Association) มีความเห็นในแนวเดียวกันว่า ธุรกิจก่อสร้างจะได้รับผลกระทบอย่างหนักในครึ่งหลังของปีนี้และต้นปีหน้า คงเป็นการยากที่จะคงความเฟื่องฟู
นายสุฟาลกล่าวอีกว่ามาตรการจำกัดสินเชื่อสำหรับภาคก่อสร้าง (เพื่อต่อต้านเงินเฟ้อ) ของรัฐบาลได้ส่งผลกระโดยตรงต่ออสังหาริมทรัพย์กับการก่อสร้างที่ย่ำแย่อยู่แล้ว และ เรียกร้องให้พิจารณามาตรการนี้ใหม่.
เศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัวเฉลี่ยกว่า 10% ในช่วงหลายปีมานี้ โดยมีอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออก การท่องเที่ยวและการก่อสร้างเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก.