ผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการกัมพูชามีประกาศจะเปิดตัวข้าวหอมลูกผสมพันธุ์ใหม่ในวันจันทร์ (16 พ.ย.) นี้ ใน จ.กัมปงธม (Kampong Thom) พร้อมเตรียมที่นา 50,000 เฮกตาร์ (321,000 ไร่เศษ) เชิญชวนต่างชาติเข้าลงทุนผลิตจำหน่าย
รัฐบาลกัมพูชาประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ จะส่งออกข้าวอีก 2 ล้านตันในปีหน้า ปริมาณส่งออกนี้เท่าๆ กับในปีนี้และปีที่แล้ว
ข้าวหอมพันธุ์ใหม่นี้เป็นผลงานการวิจัยและทดลองโดยบริษัท มาเลย์นีเซียรีสอร์สเซส (Malaynesia Resources) เป็นระดับ “ซูเปอร์ไฮบริด” (Super Hybrid) ให้ผลผลิตสูง 7-8 ตันต่อเฮกตาร์ (1.12-1.28 ตันต่อไร่) เทียบกับข้าวพันธุ์พื้นเมืองทั่วไปที่ให้ผลิตเฉลี่ยเพียง 2.5 ตัน (400 กก.ต่อไร่)
ตามรานงานของหนังสือพิมพ์แคมโบเดียเดลี่ (Cambodia Daily) ทางการได้ชวนเชิญบริษัทเอกชนจากสิงคโปร์กับนักลงทุนจากตะวันออกกลางไปร่วมงานเปิดตัวข้าวหอมสายพันธุ์ใหม่ครั้งนี้ด้วย
ฤดูนาปีที่ผ่านมาบริษัท มาเลย์นีเซีย ได้ทดลองปลูกในเนื้อที่ 2 เฮกตาร์ (12.5 ไร่) ในแปลงทดลอง จ.กัมปงธม และ กำลังจะเก็บเกี่ยว ผู้เข้าร่วมงานจะได้ทดลองรับประทานข้าวหอมพันธุ์ใหม่นี้ด้วย
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวว่า ทางการจะขยายเนื้อที่ทดลองปลูกข้าวหอมลูกผสมพันธุ์ดีนี้ออกเป็น 200 เฮกตาร์ (1,250 ไร่) ในฤดูการผลิตที่จะถึง นายลูยส์ แขก (Louis Khek) ผู้บริการของบริษัทเอกชนที่วิจัยทดลองพันธุ์กล่าวว่ามีความมั่นใจที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ครั้งหนึ่งกัมพูชาซึ่งมีที่ราบใหญ่และทะเลน้ำจืดขนาดใหญ่อันอุดม มีลำน้ำลำธารหลายสาย เคยเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวได้ปริมาณมากในแต่ละปี แต่สงครามได้ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักลง
หลายปีมานี้ มีการขยายระบบชลประทานอย่างกว้างขวางทำให้ผลิตข้าวได้มากขึ้น จนสามารถส่งออกได้อีกครั้ง
ปีนี้รัฐบาลคูเวตและกาตาร์ ได้ตกลงจะเข้าลงทุนทำนาในกัมพูชา ทั้งที่ทำเองโดยขอเช่าที่นานับแสนๆไร่ และ ว่าจ้างชาวนากัมพูชาผลิตและรับซื้อ
รัฐบาลคูเวตได้ให้เงินกู้แก่รัฐบาลกัมพูชา 600 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายระบบชลประทานใน จ.กัมปงธม ซึ่งเป็นที่ราบใหญ่อู่ข้าวในภาคกลาง รวมทั้งสร้างเขื่อนกั้นน้ำ และตัดถนนเข้าสู่เขตชนบท
ส่วนรัฐบาลกาตาร์สนใจขอเช่าที่นาในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของกัมพูชา และวางแผนจะเข้าลงทุนขยายระบบชลประทานให้แก่กัมพูชาอีกด้วย