ผู้จัดการออนไลน์-- ได้เกิดมีข่าวเล่าลือหนาหูในกัมพูชาสัปดาห์นี้เกี่ยวกับโอกาสที่ฝ่ายไทยจะส่งเครื่องบินรบแบบ F-16 โจมตีที่ตั้งทหารกัมพูชาในบริเวณเขาพระวิหาร หลังจากฝ่ายทหารยืนยันว่าไทยได้ถอนกำลังจำนวนมากออกจากพื้นที่ชายแดนด้านนั้น
ผู้อ่านจำนวนหนึ่งที่อ้างว่าได้รับข้อมูลจากฝ่ายทหารได้ส่งจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แจ้งเตือนให้กองทัพเตรียมขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน SAM7 เพื่อรับมือเครื่องบินรบของไทย
"พวกเราจะต้อง ไม่ประมาทเพราะมีโอกาสสูงที่ไทยจะส่งเอฟ-16 เข้าโจมตีทหารของเรา" ผู้อ่านคนหนึ่งส่งจดหมายถึงกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชา (Rasmey Kampuchea) กล่าวเตือนเรื่องดังกล่าว
"ผมอยากจะขอเตือนไปยังทหารทุกคนทั้งที่อยู่แนวหน้าและแนวหลังให้ระวังเรื่องนี้ และเตรียมพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะ—พวกสยามใหม่--กำลังใช้ลูกเล่นใหม่โจมตีทหารพวกเรา พวกเขาอาจจะส่งเครื่องบินรบโจมตีพวกเราได้ทุกที่ทุกเวลา ต้องระวังให้ดีอย่าไว้ใจพวกสยาม.." จดหมายฉบับเดียวกันระบุ
ผู้อ่านอีกคนหนึ่งมีความเห็นแบบเดียวกัน โดยกล่าวหาว่าฝ่ายไทยพร้อมจะ "หาเรื่อง" ทุกเมื่อและป้ายความผิดว่าฝ่ายกัมพูชายิงก่อนเพื่อที่จะอ้างเป็นสาเหตุโจมตีทางอากาศ เพราะว่ากองทัพของไทยนั้นเหนือกว่ากองทัพกัมพูชามาก
ข่าวลือเรื่องนี้เริ่มดังหนาหูหลังจากหนังสือพิมพ์ "กัมพูชาใหม่" หรือ กัมปูเจียทะเมย (Kampuchea Thmei) รายงานเมื่อวันอังคาร ว่าไทยเริ่มถอนทหารออกจากชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร โดยอ้างการสัมภาษณ์ พล.ต.สเรย์ แด๊ก (Srey Dek) ผู้บัญชาการทหารในพื้นที่
สถานการณ์ยิ่งดูสับสนเมื่อทหารไทยราว 20 นายที่ประจำอยู่นอกวัดแห่งหนึ่งบนทางขึ้นไปยังปราสาทพระวิหาร จู่ๆ ก็กลับหายตัวไป ไม่ได้ปรากฏตัวมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ ซึ่งเชื่อว่าจะถอนออกจากพื้นที่ในสัปดาห์นี้ กัมพูชาใหม่อ้างรายงานของนายทหารกัมพูชาที่ปราสาทพระวิหาร
ขณะเดียวกันไทยได้ค่อยๆ ถอนทหารออกจากบริเวณ "ตลาดปราสาท" ใกล้กับทางขึ้นปราสาทพระวิหารที่อยู่ในดินแดนของไทย ซึ่งเมื่อก่อนเคยประจำอยู่ที่นั่นกว่า 100 นาย
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างคำกล่าวของ พล.ต.เสรย์ แด๊ก ว่า มีการถอนทหารไทยออกจากเขตแดนของไทยด้านปราสาทพระวิหารจริง แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีเจตนาอย่างไรเนื่องจากอยู่นอกเขตแดนกัมพูชา
ไทยได้ถอนทหารที่เคยตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าบันไดนาคในช่วง 3-4 วันก่อนหน้านั้น ซึ่งนายทหารของไทยบางคนเคยบอกว่า จะถอนทหารออกไปเพื่อลดความตึงเครียด
สารวัตรทหารของกัมพูชาที่ประจำอยู่บนปราสาทพระวิหารก็กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้เริ่มถอนทหารออกไปจากบริเวณชายแดนจริง เพราะก่อนหน้านี้นายทหารของไทยเคยแจ้งให้ทราบว่า จะถอนกำลังพลออกจากแนวหน้าด้านนี้เพื่อนำเข้าไปเสริมในกรุงเทพฯ ที่ "สถานการณ์ทางการเมืองเลวร้ายลงทุกวันๆ" หนังสือพิมพ์ภาษาเขมรฉบับเดียวกันกล่าว
อย่างไรก็ตามทหารไทยอีก 10 นายที่ประจำการอยู่ในบริเวณวัด ยังไม่ได้ถอนออกไป "แต่พวกเขาได้เก็บปืนระเบิดและเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจีรวมกันเอาไว้ ไม่พกติดตัวอีกต่อไป พวกเขาชอบชวนทหารกัมพูชาพูดคุย กินแล้วนอน ไม่ทำอะไรทั้งนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก็ชวนกันเล่นไพ่" กัมปูเจียทะเมยกล่าว
แต่เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ในกรุงพนมเปญ อารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่านกลับกลายเป็นความวิตกกังวลว่า ทหารไทยกำลังพยายามสร้างความสับสนเพื่อรุกรบขั้นต่อไปด้วยการโจมตีทางอากาศ
“ถ้าหากเกิดการยิงกันอีก คราวนี้ทหารของเราจะต้องรุกรบเข้าไปในดินแดนไทยให้ไกลที่สุด หรือเข้าตีถึงกรุงเทพฯ เลย และ อย่าลืมเอา SAM-7 ออกใช้ด้วย” ผู้อ่านอีกคนหนึ่งเขียนถึงหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชา โดยหมายถึงขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแบบประทับไล่ยิงที่ผลิตในอดีตสหภาพโซเวียต
ปัจจุบันเครื่องบินรบที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพอากาศกัมพูชาเป็นแบบมิก-21 (MIG-21) แต่ก็มีอยู่เพียงไม่กี่ลำที่ยังใช้การได้ ฐานทัพอากาศที่อยู่ใกล้ชายแดนด้านนี้มากที่สุดอยู่ที่เมืองพระตะบอง ห่างออกไปราว 300 กิโลเมตร.