ผู้จัดการออนไลน์-- รัฐวิสาหกิจการบินลาวได้ออกแถลงแจ้งไปยังสาธารณชนทั่วไปว่า ไม่ต้องตกใจหากเห็นเครื่องบินของสายการบินแห่งชาติกำลังบินระยะต่ำหรือใบพัดไม่หมุน เพราะไม่ได้หมายความว่า เครื่องบินได้เกิดการขัดข้องแต่ประการใด แต่อาจจะเป็นการบินในขณะที่กำลังฝึกนักบิน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่ นายวิไซ บัววัน หัวหน้าแผนกปฏิบัติการบินและฝึกอบรมของรัฐวิสาหกิจการบินลาว ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวในนครเวียงจันทน์วันอังคาร (7 ต.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
"ขอแจ้งมายังพ่อแม่ประชาชนบรรดาเผ่าที่อาจจะพบเห็นกรณีผิดปกติ เช่น เครื่องบินบินไปมา บินต่ำ หรืออาจพบเห็นเหตุการณ์ใบพัดของเครื่องบินหยุด (หมุน) หมายความว่าเป็นเพียงเหตุการณ์เท่านั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องบิน" หนังสือพิมพ์รายวันของทางการนครเวียงจันทน์อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่การบินลาว
ปรากฏการณ์ต่างๆ ดังกล่าวเป็นการฝึกหัดนักบินตามหลักสากลโดยวิสาหกิจการบินลาว เครื่องบินทุกลำของการบินลาวมีเครื่องยนต์ 2 เครื่อง หากเครื่องใดเครื่องหนึ่งเกิดขัดข้องเครื่องบินยังสามารถบินต่อไปได้อีกประมาณ 1 ชั่วโมง "จึงขอเรียกร้องมายังพ่อแม่พี่น้องประชาชนบรรดาเผ่าได้เข้าใจและไว้วางใจในการบริการของรัฐวิสาหกิจการบินลาวต่อไป"
ไม่มีคำอธิบายว่าเป็นเพราะเหตุใด เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทการบินแห่งขาติจึงได้ออกแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้
นายวิไซกล่าวว่าระยะ 4 ปีมานี้สามารถฝึกสอนนักบินเพื่อขับเครื่องบินได้แล้ว 3 รุ่น รวมจำนวน 6 คน ปัจจุบันกำลังฝึกสอนนักบินชาวต่างชาติจำนวน 2 คน ทั้งหมดเป็นชาวเกาหลี
สายการบินแห่งชาติของลาวใช้เครื่องบินแบบ MA60 ที่สั่งซื้อจากจีนจำนวน 3 ลำ จากที่สั่งซื้อทั้งหมด 4 ลำ เป็นเครื่องบินหลักร่วมกับเครื่องบินแบบ ATR72 อีก 2 ลำที่มีอยู่แล้ว ทางการยังมีแผนการจัดซื้อเครื่องบินที่ผลิตในฝรั่งเศสนี้อีก 2 ลำ ขณะที่รอการส่งมอบเครื่อง MA60 อีก 1 ลำ สำหรับบินภายในประเทศและบินเชื่อมปลายทางในประเทศเพื่อนบ้านด้วย
เครื่องบิน MA60 ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตในนครเซี่ยงไฮ้ แต่ติดเครื่องยนต์แบบเทอร์โบพร็อพ (Turbo-prop) ที่ผลิตในสหรัฐฯ เครื่องยนต์ดังกล่าวใช้หลักกังหันไอพ่นเพื่อไปปั่นใบพัดให้หมุนอีกทีเพื่อฉุดเครื่องบินไปข้างหน้า
ทั้ง MA60 และ ATR72 เป็นเครื่องบินพิสัยใกล้บรรทุกผู้โดยสารได้น้อยกว่าและใช้ทางวิ่งขึ้นลงสั้นกว่าเครื่องโบอิ้งและแอร์บัส
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันท่าอากาศนานานาชาติวัดไต นครเวียงจันทน์ได้รับการพัฒนา ทำให้เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ระดับโบอิ้ง 747 หรือ แอร์บัส A300 สามารถขึ้นลงได้แล้ว.