xs
xsm
sm
md
lg

“วีรบุรุษภูมะเขือ” โวลั่นเอาจริงทหารไทยตายหมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000>  ภาพถ่ายวันที่ 4 ต.ค.2551 หลังเกิดเหตุปะทะเพียง 1 วัน พลทหารจีเม้งถูกห้อมล้อมด้วยบรรดานายทหารกับเพื่อนร่วมสมรภูมิ ที่ชายแดนด้านภูมะเขือ หรือ พนมโตร๊ป ตอนนี้อดีตทหารเขมรแดงกลายเป็นวีรบุรุษของชาวกัมพูชา (ภาพ: Reuters)  </FONT></CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์-- ในกัมพูชาพลทหารจีเม้ง (Chi Meng) ได้กลายเป็นวีรบุรุษไปแล้ว สื่อต่างๆ ได้ยกย่องความกล้าแกร่งของอดีตทหารเขมรแดงผู้นี้ คนนับร้อยๆ เข้าไปแสดงความชื่นชมตัวเขาเมื่อข่าวปรากฏบนเว็บไซต์หลายแห่งของชาวกัมพูชาในต่างแดน

พลทหารจีเม้ง ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากเหตุปะทะกับทหารพรานของไทยที่ชายแดนบริเวณภูมะเขือ จ.พระวิหาร วันศุกร์ (3 ต.ค.) ที่ผ่านมา เขายืนยันว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายยิงเข้าใส่ก่อน แม้ว่าจะยิงจากเขตแดนของไทยก็ตามทำให้ฝ่ายเขมรที่รักษาการณ์ในบริเวณนั้นต้องยิงกลับเพื่อป้องกันตัวเอง และถ้าหากฝ่ายกัมพูชาตั้งใจจะรบจริงๆ ฝ่ายไทยก็จะไม่รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว
<CENTER><FONT color=#FF0000> จีเม้งโชว์บาดแผลเล็กๆ ที่เข้าใจว่าเกิดจากสะเก็ดระเบิดของฝ่ายไทย (ภาพ: Phnom Penh Post)</FONT></CENTER>
คำให้สัมภาษณ์ของ จีเม้ง ตรงกับข้อความในสาสน์ประท้วงของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเมื่อวันเสาร์ ที่ระบุว่า ทหารไทยล้ำแดนและเป็นฝายเปิดฉากยิงก่อน ขณะที่สาสน์ประท้วงของไทย ระบุว่า ฝ่ายเขมรเปิดฉากยิงทหารไทยขณะอยู่ในดินแดนของไทยและปราศจากอาวุธ

“ทันใดนั้นทหารกัมพูชาก็เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารพรานของไทยที่ไม่ได้ติดอาวุธ ทำให้หน่วยทหารของไทยที่ประจำการอยู่ใกล้เคียงต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง” สาสน์
ของกระทรวงการต่างประเทศไทย ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (5 ต.ค.) กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ที่มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

แต่ จีเม้ งกับ บังจิน (Bang Chin) เพื่อนทหารอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยกันพูดอีกอย่างหนึ่ง

“ผมคิดว่าพวกเขา (ทหารไทย) โชคดี” หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ อ้างคำกล่าวของจีเม้ง อดีตทหารเขมรแดงซึ่งประจำในพื้นที่มาเป็นเวลานาน หลังจากพลพรรคของนายพลตาม็อก (Ta Mok) หรือ “ม็อกตา” ยอมสลายกำลังในปี 2541 และเข้าร่วมกับกองทัพรัฐบาลนายฮุนเซน

“ทหารไทยยิงใส่เราหลายนัด พวกเขาหวังจะฆ่าเรา” จีเม้ง กล่าว ทั้งยังอ้างอีกว่าเขาเองได้ยิงตอบกระสุนโดนเข้าที่ท้องของทหารไทยรายหนึ่ง

“ผมเฝ้าดูเขา (ทหารพรานไทย) ทิ้งปืนแล้ววิ่งหนี” อดีตทหารเขมรแดงกล่าว

จีเม้ง กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ทหารไทยมักจะเข้าไปชวนพูดคุยเรื่องต่างๆ อยู่เสมอๆ ในอาณาบริเวณชายแดนด้านพนมโตร๊ป (Phnom Troap) ซึ่งอยู่ห่างขากปราสาทพระวิหารไปทางตะวันออกราว 2 กิโลเมตร ฝ่ายเขมรก็มักจะพูดคุยด้วยเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก

“ผมบอกกับพวกเขาไปว่า เราไม่สามารถจะเจรจาแก้ไขความขัดแย้งได้ที่นี่ ผมบอกให้พวกเขาทิ้งปัญหานี้ให้กับรัฐบาลหาทาง” อดีตทหารเขมรแดงวัย 33 ปีกล่าวกับพนมเปญโพสต์

เขากล่าวอีกว่า วันนั้นพอพูดคุยเสร็จทหารไทยจำนวน 16 นาย ก็กลับไป ซึ่งตัวเองไม่ได้สนใจมากนักเพราะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าหนึ่งในนั้นจะหันกลับและยิงใส่ทหารกัมพูชาในบัดดล
<CENTER><FONT color=#FF0000> ภาพถ่ายวันที่ 4 ต.ค. หลังการปะทะเพียง 1 วันพลพรรคของจีเม้ง ยังคงประจำการที่ชายแดนภูมะเขือ บริเวณที่เกิดเหตุ (ภาพ: Reuters) </FONT></CENTER>
“เราไม่ได้ใส่ใจอะไรอีกแล้ว ต้องยิงตอบโต้ด้วยลูกเบกับอาก้าเพื่อป้องกันชีวิตเรา” จีเม้ง กล่าวกับหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน ซึ่งอาวุธที่เขาใช้ยิงตอบโต้กับฝ่ายไทยนั้นหมายถึงเครื่องยิงระเบิดอาร์คพีจีบี-40 (B-40) กับปืนกลอัตโนมัติเอเค-47

“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก.. ผมคิดว่าพวกทหารไทยโชคดีในวันนั้น ถ้าเราตัดสินใจโจมตีจริงๆ ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะรอดชีวิตไปได้แม้แต่คนเดียว” นักรบเขมรแดงที่ช่ำชองสมรภูมิ กล่าว

อย่างไรก็ตาม อีก 2 วันต่อมาทหารพรานของไทยอีก 2 นาย ได้เหยียบกับระเบิดบาดเจ็บสาหัสที่ชายแดนด้านภูมะเขือ ฝ่ายกัมพูชากล่าวว่าเป็นกับระเบิดที่วางเอาไว้โดยทหารเขมรแดงตั้งแค่ยุคสงครามกลางเมือง
<CENTER><FONT color=#FF0000> ภาพเก่าๆ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2551 ครั้งที่ ทหารชุดดำ ของไทย กับ ทหารเกือกแตะ หรือ นักรบเขมรแดงเก่ายังอยู่ร่วมกันอย่างสงบขณะเผชิญหน้ากันในบริเวณวัดแห่งหนึ่งใกล้กับปราสาทพระวิหาร ห่างจากพนมโตร๊ปไปทางตะวันตกราว 2 กม. (ภาพ: AFP)  </FONT></CENTER>
ข่าวเกี่ยวกับเหตุปะทะระหว่างทหารไทย กับ ทหารกัมพูชา ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ ถูกเผยแพร่ไปตามสื่อต่างๆ ทั่วโลกโดยผ่านสำนักข่าวตะวันตกสำนักต่างๆ ชาวกัมพูชาที่เข้าไปอ่านข่าวตามเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่างๆ ได้พากันชื่นชมอดีตนักรบเขมรแดงผู้นี้ หลายคนยกย่องให้เป็นแบบอย่างคนกล้า

ชาวกัมพูชาที่เข้าอ่านข่าวในเว็บไซต์ต่างๆ ได้ใช้โอกาสนี้ปลุกเร้าความรักชาติ และส่งกำลังใจไปยังแนวหน้าที่กำลังต่อสู้กับส่งที่พวกเขาเรียกว่า “การรุกรานของพวกสยาม”
กำลังโหลดความคิดเห็น