ผู้จัดการออนไลน์ -- วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจกรุงฮานอยได้ออกกวาดล้างแก๊งหญิงขายบริการทางเพศที่สมคบกันรูดทรัพย์นักเที่ยวได้กว่าสิบคน ในนั้นมี 2 คนถูกจับได้อย่างคาหนังคาเขา ขณะฉกกระเป๋าเงินโทรศัพท์มือถือกับทรัพย์สินของลูกค้าพยายามหลบหนีออกจากโรงแรม
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่กำลังลุกลามบานปลายใหญ่โต และทางการกรุงฮานอยได้สั่งการเฉียบให้ท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศต้องเร่งปราบปราม
ตำรวจได้สะกดรอยหญิงโสเภณีกลุ่มนี้มาเป็นเวลานาน และวางแผนจู่โจมโดยสะกดรอยตามนักเที่ยวสองคนที่ไปรับหญิงโสเภณีทั้งสองจากสี่แยกถนนกิงเดื่องเวือง (Kinh Duong Vuong) ในเขต 6 ของกรุงฮานอย จากนั้นได้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์กันไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่ถนนเลเติ่นโหมว (Le Tan Mau) ซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป
หญิงสาวทั้งสองคนฉวยโอกาสในช่วงที่หนุ่มนักเที่ยวทั้งสองเข้าห้องน้ำฉกกระเป๋าเงินและของมีค่าพยายามหลบออกจากโรงแรม แต่เจ้าหน้าที่เข้าไปแสดงตัวจับกุมเอาไว้ได้ทัน
จากนั้นตำรวจได้ระดมกำลังเข้าจับกุมหญิงโสเภณีแก๊งนี้ได้ทั้งหมดกว่า 10 คน โดยมีหญิงสาววัย 27 ปีเป็นหัวหน้า
กรุงฮานอยเผชิญหน้ากับปัญหาหญิงขายบริการทางเพศที่ใช้ริมถนนสายสำคัญเป็นแหล่งพบปะลูกค้า เมื่อเจ้าหน้าที่สายตรวจไปยังบริเวณเหล่านั้นทุกคนก็จะสลายตัวไป แต่ไม่นานก็จะกลับไปรวมกันใหม่ตามถนนสายอื่นๆ ทำให้ยากต่อการปราบปราม
ปัจจุบันปัญหาการค้าประเวณีซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่แล้วกำลังลุกลามบานปลายไปเป็นปัญหาอาชญากรรมที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น และเรื่องนี้กำลังลุกลามไปยังนครและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
ปลายเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา กรมควบคุมอาชญากรรม กระทรวงความมั่นคงภายในได้ออกวิจารณ์ทางการท้องถิ่นต่างๆ ที่ปล่อยให้ปัญหาโสเภณี ลุกลามและเพิกเฉยไม่ได้ทำการปราบปรามอย่างจริงจัง
กระทรวงความมั่นคงภายในได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกรุงฮานอย และเรียกร้องให้ทางการจังหวัดและนครกวาดล้างโสเภณีอย่างจริงจัง ทั้งระบุว่าปัจจุบันมีแหล่งซ่องสุมการค้าประเวณีท้าทายกฎหมายอยู่ประมาณ 200 แห่งทั่วประเทศ
นายเลดึ๊กเฮียน (Le Duc Hien) รองอธิบดีกรมควบคุมอาชญากรรมได้วิจารณ์เจ้าหน้าที่ จ.นามห่า (Nam Ha) ห่าซยาง (Ha Giang) กับ จ.ลายโจว (Lai Chau) กล่าวหาอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่เอาใจใส่ในการแก้ปัญหาการค้าประเวณี และยกตัวอย่าง จ.นามห่า ซึ่งเมื่อปีที่แล้วใช้งบประมาณเพียง 18 ล้านด่ง (1,100 ดอลลาร์) เพื่อการนี้
ปีที่แล้วทั่วประเทศมีการดำเนินการกับหญิงโสเภณี 390 รายเท่านั้นขณะที่ทางการมีชื่อในทะเบียนประวัติกว่า 20,000 คน แต่คาดว่าจำนวนทั้งหมดน่าจะมีมากถึง 50,000-60,000 คน
ที่ผ่านมาทางการในหลายท้องถิ่น รวมทั้งนครโฮจิมินห์ จ.กว๋างนิง (Quang Ninh) ก่าเมา (Ca Mau) และ จ.จ่าวิง (Tra Vinh) ได้เอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหานี้เป็นอย่างดี สามารถปราบปรามแก๊งค้าหญิงและแก๊งจัดหาหญิงบริการกลุ่มใหญ่ได้หลายครั้ง
กระทรวงความมั่นคงฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันได้พบเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนมากได้กลายเป็นลูกค้าของหญิงขายบริการทางเพศเสียเอง แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เมื่อถูกจับได้ก็จะได้รับโทษเพียงถูกปรับ ซึ่งตามระเบียบปฏิบัติแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรายงานไปยังต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิด
ปัจจุบันการค้าประเวณีได้ทำโดยแอบแฝงในรูปแบบต่างๆ หลากหลาย เช่น ร้านอาหารหลายแห่งเปิดบริการ "อ๊อฟ" พนักงานในร้าน หรือ บางแห่งเป็นร้านอาหารที่เปิดบังหน้าเพื่อจัดหาหญิงสาวให้บริการแขกในโรงแรมโดยเฉพาะในราคาตั้งแต่ 30-40 ดอลลาร์ บางแห่งเปิดเป็นร้านเสริมสวยตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ภายในไม่มีอุปกรณ์เสริมความงามใดๆ แม้แต่ชิ้นเดียว
ปัญหาการค้าประเวณีในปัจจุบันมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการแอบแฝงตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีนับร้อยๆ แห่งทำให้ยากแก่การปราบปราม
สถานเริงรมณ์ ตามค้อฟฟีช้อป ดิสโกเธค กระทั่งในโรงแรมหรือตามคลับระดับหรูก็ยังเป็นสถานที่โสเภณีอีกระดับหนึ่งแอบแฝงในการขายบริการ
ทางการยังพบว่า มีเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจำนวนมากได้เข้าสู่งานขายบริการทางเพศเนื่องจากต้องการเงินไปซื้อสิ่งของเครื่องใช้ฟุ่มเฟือยต่างๆ
บางคนใช้วิธีเปิดเว็บแคมเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นตัวตนหรืออย่างที่จะให้บริการ ก่อนจะติดต่อออนไลน์กันอีกหลายทอด ทำให้ติดตามได้ลำบาก
ทางการยอมรับว่า ปัจจุบันมีนักเรียนนักศึกษาเข้าสู่งานขายบริการทางเพศจำนวนมาก ในช่วงปีใกล้ๆ นี้ในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ตำรวจสามารถปราบปรามแก๊งนักเรียนและนักศึกษาขายบริการได้หลายครั้ง รายงานของกระทรวงความมั่นคงระบุ
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม จัดให้เป็นหนึ่งในสาม “ความชั่วร้ายทางสังคม” เช่นเดียวกับปัญหาการคอร์รัปชันและยาเสพติด และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดการแก้ไขมาตลอดช่วงหลายปีมานี้