xs
xsm
sm
md
lg

รมต.ญี่ปุ่นหน้าบางลาออกเหตุข้าวเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000> รัฐมนตรีเกษตรญี่ปุ่น นายไซอิชิ โอตะ (ซ้าย)  ยื่นหนังสือขอลาออกเมื่อวันศุกร์ (19 ก.ย.) นี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความวิตกกังวลเกี่ยกับข้าวปนเปื้อนสารฆ่าแมลงตกค้างที่นำเข้าจากเวียดนามและจีน แม้ว่าจะยังไม่มีผู้ใดได้รับผลกระทบจากสารพิษดังกล่าวก็ตาม (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>
ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรญี่ปุ่นลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ (19 ก.ย.) อันเป็นผลมาจากการเกิดความหวาดกลัวเกี่ยวกับข้าวนำเข้าจากจีนและเวียดนามที่มีสารพิษตกค้าง หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดว่าข้าวดังกล่าวถูกส่งไปใช้ในโรงพยาบาลและโรงเรียนสำหรับเด็กๆ รับประทานด้วย

นายไซอิชิ โอตะ (Seiishi Ota) รมว.เกษตร ได้ลาออกไม่กี่วันก่อนที่รัฐบาลจะหมดวาระลงเนื่องจากผู้นำคือ นายยาสุโอ ฟุกุดะ (Yasuo Fukuda) นายกรัฐมนตรี ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้เนื่องจากความนิยมของประชาชนลดลงต่ำมาก และรัฐบาลไม่สามารถโน้มน้าวให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งได้

นายโอตะกล่าวว่า การลาออกก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า มีคนรับผิดชอบต่อเรื่องอื้อฉาวนี้

ความฉาวโฉ่นี้เริ่มขึ้นเมื่อบริษัทมิซากะฟูดส์ (Misaka Foods) ที่นครโอซากา (Osaka) ยอมรับเมื่อต้นเดือนว่า ได้จำหน่ายข้าวที่นำเข้าจากจีนและเวียดนามเพื่อจุดประสงค์อื่นไปยังร้านค้าต่างๆ เพื่อการบริโภค รวมทั้งเพื่อทำขนมขบเคี้ยว

รัฐบาลญี่ปุ่นจำต้องนำเข้าข้าวและผลผลิตการเกษตรอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ตามพันธะสัญญาที่ให้แก่ประชาคมระหว่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่นำเข้าเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม เช่นการผลิตกาวเป็นต้น การตรวจสอบได้พบว่าข้าวที่นำเข้าลอตดังกล่าวมีสารฆ่าแมลงปนเปื้อนสูงเกินมาตรฐาน

ต่อมาบริษัทผู้ผลิตสุราอิโมะโชชู (Imo Shoshu) รายใหญ่รายหนึ่งที่ใช้ข้าวเป็นส่วนประกอบในการผลิต ได้เรียกคืนสุรากว่า 600,000 ขวดที่วางจำหน่ายทั่วโลก เพื่อลดความวิตกกังวลของสาธารณชนลง

บริษัทนี้กล่าวว่า แม้จะตรวจไม่พบสารพิษใดๆ ในสุราอิโมะโชชู แต่การเรียกคืนจะสร้างความมั่นใจและทำให้สาธารณชนคลายความกังวลลงได้

เมื่อเรื่องอื้อฉาวนี้เริ่มขึ้นใหม่ๆ นายโอตะได้กล่าวว่า จะไม่ให้ความสำคัญนักเนื่องจากยังไม่มีผู้ใดได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากข้าวดังกล่าว และกล่าวอีกว่าชาวญี่ปุ่นวิตกกังวลจนเกินเหตุ

หลายฝ่ายกล่าวว่ารัฐมนตรีเกษตรลาออกช้าเกินไป รัฐบาลควรแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้มานานแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้

กำลังโหลดความคิดเห็น