ผู้จัดการออนไลน์ -- การเจรจาในระดับสูงได้หยุดชะงักลงตั้งแต่เดือนที่แล้ว สงครามการทูตได้กลายเป็นสงครามการเมืองที่มีการสาดโคลน โดยล่าสุด นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุนเซน เรียกทหารไทย ว่า “โจร” ขณะที่กัมพูชาหาว่าฝ่ายไทยได้รุกล้ำเขตแดนในหลายจุด ทั้งแต่ทางเหนือลงไปทางชายแดนตะวันตก
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ รายงานในวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) นี้ อ้างคำพูดของนายทหารกัมพูชา ที่กล่าวหาว่า ทหารไทยกำลังรุกล้ำแดนในเขตนิยมโอปลกดำเรย (O Plok Damrey) อ.เวียลแวง (Veal Veng) ชายแดนด้าน จ.โพธิสัตว์ (Pursat) ซึ่งติดกับชายแดน จ.ตราด ของไทย
อย่างไรก็ตาม พนมเปญโพสต์ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหาไทยครั้งล่าสุดนี้เมื่อไร
“ทหารไทยเข้ามาดูทหารของเรา และบอกให้ย้ายรั้วเขตแดน ถอนกำลังเข้าไปในกัมพูชา” พล.ต.เอกสัมออน (Ek Sam On) รองผู้บัญชาการทหารภาค 5 ที่ดูแลพื้นที่ จ.โพธิสัตว์ พระตะบอง (Battambang) ไพลิน (Pailin) และบ้านใต้มีชัย (Banteay Meanchey) กล่าวกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว
“ทหารของเราตั้งอยู่ตามแนวชายแดนของเราแท้ๆ เพื่อป้องกันเขตแดน ผมไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรทหารไทยจึงอยากจะให้เราถอนออกจากพื้นที่และย้ายแนวรั้วที่กั้นมาสิบปีแล้ว มันเป็นการขอร้องที่ไม่มีเหตุผล” นายทหารคนเดียวกันกล่าวกับพนมเปญโพสต์
นายอูนยง (Oun Yong) นายอำเภอ อำเภอเวียลแวงกล่าวว่า ทหารกัมพูชาจะยังประจำอยู่ที่นั่นตราบใดที่ไม่มีคำสั่งจากรัฐบาลให้ถอนออกไป
นายทหารภาค 5 กองทัพกัมพูชาที่ไม่ต้องการให้ออกชื่อกล่าวว่า กัมพูชาได้ส่งทหารไปประจำชายแดนโพธิสัตว์มากขึ้น เนื่องจากได้กลายเป็น “แนวหน้า” แห่งใหม่ บรรดานายทหารได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์ที่นั่นเป็นประจำ
การเผชิญหน้าทางทหารระหว่างไทย-กัมพูชา ยังคงดำรงอยู่ในหลายจุด ตั้งแต่ปราสาทตาเมือนธม (Ta Muon Thom) ไปยังปราสาทตากะเบย (Ta Krabey) หรือ “ตาควาย” ก่อนหน้านั้นสองฝ่ายได้ตกลงถอนทหารส่วนใหญ่ออกจาก “แดนพิพาท” ด้านเขาพระวิหาร