ผู้จัดการรายวัน-- บริษัทที่ได้รับสัมปทานสำรวจขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซในแขวงสะหวันนะเขตกับแขวงสาละวันของลาวกำลังจะเริ่มเจาะบ่อทดสอบเป็นครั้งแรกในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทางการกล่าวว่า มีโอกาสที่จะพบน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติถึง 70%
หากผลออกมาเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนรูปโฉมอุตสาหกรรมพลังงานในลาว ขณะที่บริษัทน้ำมันต่างชาติยังคงสำรวจใน 4 แขวงภาคใต้ต่อไป หลังจากการสำรวจทางธรณีศาสตร์ในยุคใหม่ได้พบว่ามีศักยภาพสูงที่จะเป็นแหล่งพลังงาน
การสำรวจหาพลังงานฟอสซิลในแขวงสะหวันนะเขตดำเนินมาตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยครอบคลุมพื้นที่เมือง (อำเภอ) ท่าปางทองกับเมืองสองคอน กับเมืองละคอนเพงในแขวงสาละวันที่อยู่ติดกัน
"การสำรวจสำเร็จไปแล้วส่วนหนึ่งและพบว่ามีความเป็นไปได้สูงถึง 70% ที่จะพบน้ำมันและก๊าซ" หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่ของทางการนครเวียงจันทน์รายงานเมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) โดยอ้างคำกล่าวของนายทอนแก้ว พุดทะไกยะลาด หัวหน้าแผนกพลังงานแขวงซึ่งเปิดเผยเรื่องนี้ในวันที่ 9 ก.ย.
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัทที่กำลังทำการสำรวจอยู่ในขณะนี้ แต่กล่าวว่าสัญญาการมีอายุถึง 3 ปีแต่การสำรวจในปีแรกทำให้แน่ใจว่าจะพบน้ำมันและก๊าซอย่างแน่นอนใน 2 เมืองแขวงสะหวันนะเขตและอาจจะมีในปริมาณมากกว่าในเขตสัมปทานแขวงสาละวัน จึงตัดสินใจเจาะบ่อทดสอบเป็นบ่อแรกในเขตเมืองละคอนเพงโดยจะดำเนินการในเดือน พ.ย.นี้
"การสำรวจได้พบว่าในแขวงสะหวันนะเขตคือในสองเมืองดังกล่าวอาจจะมีน้ำมันหรือก๊าซมากกว่าเมืองละคอนเพง" หนังสือพิมพ์ของทางการลาวอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนเดียวกัน
หลังจากเจาะบ่อทดสอบในเขตเมืองละคอนเพงแล้ว บริษัทสำรวจจะเจาะบ่อทดสอบในสองเมืองแขวงสะหวันนะเขตต่อไป ซึ่งจะต้องมีการลงทุนถึงบ่อละ 6 ล้านดอลลาร์ สื่อของทางการกล่าว
“ผู้จัดการรายวัน” ไม่สามารถขอข้อมูลใดๆ จากเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของลาวได้ในวันอังคารที่ผ่านมา
ในเดือน มิ.ย.2550 ทางการลาวกับบริษัทซาลาแมนเดอร์ เอ็นเนอร์ยี่ กรู๊ป (Salamander Energy Group) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันจากอังกฤษกับบริษัทหนองซื่นจะเลินพัดทะนาจำ ซึ่งเป็นบริษัทลาว ได้ร่วมกันเซ็นความตกลงแบ่งผลประโยชน์ โครงการสำรวจขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซในแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งจะมีการลงทุนราว 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐและในระยะการสำรวจ 3 ปี
ก่อนหน้านั้นในเดือน เม.ย.สามฝ่ายได้เซ็นสัญญาสัญญาการสำรวจและผลิต (Exploration & Production) โครงการดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการแบ่งปันผลประโยชน์
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ "ประชาชน" รายวัน ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว สัญญาการสำรวจและผลิตครอบคลุมระยะเวลาการสำรวจ 3 ปี และ สามารถต่ออายุได้ 2 ครั้ง คราวละ 2 ปี รวมเป็นเวลา 7 ปี
สัญญาสำรวจและผลิตน้ำมันดิบและก๊าซในแหล่งบนบกของลาวที่เซ็นกับซาลาแมนเดอร์กรู๊ปนี้ นับเป็นฉบับที่ 2 ในรอบกว่า 10 ปี
ปี 2541 ลาวอนุญาตให้บริษัทจากอังกฤษอีกแห่งหนึ่งเข้าสำรวจน้ำมันดิบและก๊าซในแขวงเวียงจันทน์ ทางตอนเหนือของประเทศ แต่เกิดวิกฤตการการเงินในเอเชีย ทำให้โครงการต้องล้มเลิกไป
ซาลาแมนเดอร์ เอนเนอร์ยี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กรุงลอนดอนในเดือน ธ.ค.2549 และ ได้เริ่มเจรจากับรัฐบาลลาวในปีเดียวกัน โดยได้เสนอสัญญาแบบ PSC (Product Sharing Contract) หรือ แบ่งปันผลผลิตกันระหว่างบริษัทผู้ลงทุนกับฝ่ายลาว
เว็บไซต์ Worldwide Energy News รายงานว่า ในเดือน ธ.ค.2549 ซาลาแมนเดอร์เอ็นเนอร์ยีได้เจรจากับรัฐบาลลาวขอเข้าสำรวจในพื้นที่ 31,000 ตารางกิโลเมตร ในแปลงสำรวจแขวงภาคใต้ หากได้รับอนุญาต การสำรวจจะเริ่มได้ในปี 2550 และการเจาะสำรวจจะมีขึ้นในปี 2551
ซาลาแมนเดอร์ เอ็นเนอร์ยี ยังได้เจรจา เพื่อขอเข้าสำรวจอีกแปลงในแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งลาวเคยให้สัมปทานแก่บริษัท Monument Oil & Gas จากอังกฤษ ในช่วงที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังอยู่ในวิกฤติทางเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุด แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในเรื่องนี้
บริษัท Monument Oil & Gas ได้รับอนุญาตให้เข้าสำรวจในพื้นที่ 37,250 ตร.กม. ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของแปลงสำรวจในแขวงเวียงจันทน์ และ ได้เจาะสำรวจในบ่อเพียงแห่งเดียวที่มีชื่อว่า นาทราย 1ST (Naxay 1ST) แต่เจาะลงไปได้เพียง 650 เมตร บริษัทดังกล่าวก็ได้ล้มเลิกไป
ตามข้อมูลของวงการอุตสาหกรรมน้ำมันโลก ภาพถ่ายทางธรณีศาสตร์โดยใช้เทคโนโลยีดาวเทียมได้ปรากฏชัดให้เห็นปริมาณไฮโดรคาร์บอน ในเขตภาคใต้และภาคเหนือของลาว ซึ่งมีศักยภาพที่จะมีน้ำมันดิบและก๊าซปริมาณมหาศาลอยู่ลึกลงไป
ในเดือน ส.ค.2550 กลุ่มร๊อกซ์เวลล์ (Roxwell) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันที่ตั้งอยู่ในมาเลเซียได้เปิดแถลงในนครเวียงจันทน์ว่าได้ยื่นเสนอต่อทางการลาวขอเข้าลงทุนสำรวจน้ำมันดิบและก๊าซ ในแขวงภาคใต้
ร๊อกซ์เวลล์ได้จัดสัมมนาและแถลงเรื่องนี้ที่โรงแรมลาวพลาซ่า มี ดร.สมบูน ลาซะสมบัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่ของทางการนครหลวงเวียงจันทน์
บริษัทจากมาเลเซียกำลังจะเสนอตัวเข้าสำรวจในเขต 4 แขวงภาคใต้ คือจำปาสัก สาละวัน เซกองและอัตตะปือ "หลังจากร๊อกซ์เวลล์แห่งมาเลเซียได้ศึกษาข้อมูลข้อเท็จจริงเห็นว่าเขตดังกล่าว มีความเป็นไปได้ที่จะมีบ่อน้ำมันและก๊าซ" เวียงจันทน์ใหม่รายงานในช่วงนั้น
สื่อของทางการลาวกล่าวบริษัทน้ำมันจากมาเลเซียได้เสนอเข้าลงทุนสำรวจโดยจะใช้เวลาประมาณ 7 ปี หากพบว่ามีศักยภาพเพียงพอก็จะยื่นขอลงทุนเพื่อขุดเจาะต่อไป แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆนับแต่นั้นเป็นต้นมา.